ลูกกตัญญูบริจาคไตเพื่อแม่ ได้รับ Kindness Card ยกย่องความกตัญญู ความกล้าหาญ และเสียสละเพื่อตอบแทนบุพการี  โดยเรื่องราวเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ระบุว่า แม่ปลาเป็นโรคไต ตั้งแต่ประมาณกลางปี 56 เพราะแม่มีโรคประจำตัวคือ เบาหวานและความดัน ซึ่งเป็นมานานกว่า 22 ปีเท่าอายุน้องชาย

33

 ตอนแรกแม่มีอาการน้ำท่วมปวด นอนราบกับเตียงไม่ได้ ก็ต้องนั่งหลับบนเก้าอี้เอา จนเราสงสัยเลยพาแม่มาหาหมอ หมอบอกว่าไตเสื่อมลงเร็วมากเพิ่มจากระดับ 3 เป็น 4 ถ้าถึงระดับ 5 แม่ต้องฟอกไตตลอดชีวิต

หมอเริ่มให้ปลาไปปรึกษาฝ่ายโรคไต ที่อาคารกสิกรไทย รพ.จุฬา ไปศึกษาวิธีฟอกไต เราไม่คิดว่าแม่เราจะต้องฟอกไตด้วยเหรอเพราะอะไร บ้านเราไม่ใช่คนกินเค็มนะ แต่ปรากฏว่าแม่กินมังสวิรัตมากว่า 10 ปี กลับเป็นการส่งเสริมให้คนที่มีภาวะไตเสื่อมยิ่งเสื่อมเร็วขึ้นไปอีก เรางงมาก เพราะยิ่งกินผักเยอะ ก็จะมีโพแทสเซียมสูง กินเต้าหู้เยอะก็จะมีโปรตีนสูง กินน้ำเยอะก็จะเป็นภาวะน้ำเกิน

คนที่ไตเริ่มเสื่อมต้องดูแลเรื่องการกินให้ถูกกับโรคจริงๆ นะ เพราะตลอดมาคิดว่าการกินมังสวิรัตดีที่สุด แต่ต้องไม่ใช่สำหรับคนเป็นภาวะไตเสื่อมนะ

ปลาต้องพาแม่มารพ.บ่อยมาก พอได้ที่ฟอกไตแล้ว คือที่ รพ.สิรินทร ฟอกทุกวันอังคารและศุกร์ ที่ไม่ได้ฟอกที่รพ.จุฬา เพราะเต็มแล้ว คนเป็นโรคไตต้องฟอกเลือดตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นเค้าก็จะมาตรงเวลาตลอดจนกว่าเค้าจะลาโลกนี้ไป

ช่วงแรกแม่ฟอกที่คอ ปลาเห็นว่าแม่ฟอกเลือดอย่างนี้ไปตลอดคงไม่ดีแน่ ดูแม่ไม่แข็งแรง สุขภาพจิตคงเสื่อมลงทุกวันๆ เพราะมีญาติที่เสียจากการติดเชื้อจากการฟอกไต เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น เราเลยถามหมอว่า เรามอบไตของเราให้แม่ได้มั้ย ตอนแรกหมอก็บอกว่าไม่ได้ เพราะแม่มีโรคประจำตัวคือเบาหวานและความดัน และอาจจะลามเป็นโรคหัวใจอีกในอนาคต

ถ้าอายุมากก็เปลี่ยนไม่ได้เพราะร่างกายคงปรับสภาพไม่ได้ แต่ถามไปถามมาหลายๆ รอบ หมอก็บอกว่างั้นลองดู ไปลองตรวจสุขภาพดู

ฉันกับแม่ก็เริ่มโครงการปลูกถ่ายไตกันเลยตั้งแต่ช่วงเดือนเมษาที่ผ่านมา หมอให้ใบมาดำเนินการตรวจสุขภาพทั้งฉันและแม่ทีละขั้นตอน กว่าจะเสร็จก็เกือบจะถึงกำหนดผ่าพอดี เรื่องสุขภาพปลาไม่ห่วงอยู่แล้ว 100% แต่สุขภาพแม่นี่ลุ้นตลอด ยิ่งตอนเดินสายพานตรวจหัวใจเกือบไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ได้ผ่าตัด แต่สุดท้ายก็ผ่าน ตอนตรวจเลือดเอาเนื้อเยื่อไปตรวจ ก็ลุ้นเพราะมันจะบอกว่า สรุปแล้วเนื้อเยื่อแม่กับฉันเข้ากันได้หรือไม่ พอผลว่าได้ฉันดีใจมากๆ อ่ะ

22

ฉันจะพาแม่ตะเวนไปทำบุญเสมอๆ เพราะอยากให้การผ่าตัดราบลื่น หมอถามฉันอย่างแรกเลยว่า คิดจะมีลูกมั้ย? ฉันเลยบอกว่า เอ่อ ยังหาพ่อของลูกไม่ได้เลยคะ แม่กับหมอหัวเราะใหญ่เลย เพราะว่าถ้าต่อไปฉันมีครอบครัวแล้วมีลูก ลูกก็อาจมีความเสี่ยงที่จะไม่สมบูรณ์ เพราะแม่มีการขับถ่ายของเสียโดยไตได้แค่ข้างเดียว แต่ฉันไม่คิดเรื่องอนาคตหรอก ปัจจุบันคือฉันไม่อยากเห็นแม่ต้องเจ็บตัวด้วยการโดนเข็มเจาะทุกอาทิตย์ ลองคิดเล่นๆ เป็นเราเราก็คงเจ็บแค่เดือนละครั้งยังไม่อยากเลย

แม่ให้ชีวิตให้อวัยวะทุกส่วนเรามา เพียงแค่ไตข้างเดียวฉันให้แม่ได้เลย สบายมากๆ ฉันพร้อมทุกอย่างทั้งร่างกายและจิตใจ ฉันเต็มใจที่สุดที่เห็นว่าไตเราไปอยู่กับคนที่เรารัก ถึงแม้ว่าจะรอการรับบริจาคได้ แต่ขอเป็นของเราดีกว่า เราสบายใจกว่าเยอะ

น้องชายเราก็ยังเรียนหนังสือ เค้าก็ควรต้องเรียนต่อไป พ่อฉันเองก็เกษียณเดือนกันยายนนี้แล้ว เค้าก็เป็นอัมพฤกษ์ ด้วยมือข้างขวาใช้การไม่ได้ ถ้าต่อไปแม่ต้องฟอกไตจนหมดเรี่ยวแรงคงไม่ได้เห็นลูกสาวแต่งงาน คงไม่ได้อุ้มหลาน คงไม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองของน้องชายฉัน 

ฉันภูมิใจที่สุดแล้วที่ได้ทำหน้าที่นี้

ที่มา: เพจ World Kindness Thailand – Do D Foundation

เรื่องน่าสนใจ