โดยนพ. ภูดิท พึ่งจันทรเดชศัลยแพทย์ตกแต่ง โรงพยาบาลนครธน
“ก่อนอื่นเลยการเสริมจมูกให้สวยนั้น เราต้องดูว่าเนื้อจมูกของเขาตึงไหม หมอเคยเจอคนไข้ที่เป็นชาวเขมร พม่า เนื้อจมูกเขาตึง ถ้าตึงมากแล้วเราพยายามจะเลาะโพรงเข้าไป ใส่ซิลิโคน ต้องลดปริมาณซิลิโคนลง คนไทยก็มีบ้างนะ บางทีอยากได้จมูกสูงสวย แต่เนื้อน้อยใส่ซิลิโคนเท่าไหร่ก็ไม่ได้ อันตรายที่จะใส่ซิลิโคนเยอะไป เพราะซิลิโคนจะโผล่
จมูกสั้นใส่ ซิลิโคนให้ช่วงจมูกยาวไม่ได้ มันเป็นอันตรายมาก เพราะหากเราใส่ซิลิโคนยาวให้เนื้อจะทะลุมาได้ ช่วงจมูกสั้นอาจจะแก้ด้วยวิธีอื่น เช่น เอากระดูกอ่อนมาช่วย หรือฉีดไขมันให้ยาวขึ้น แต่ส่วนใหญ่เรามักจะใช้กระดูกอ่อน มันจะดันได้ดีกว่า แต่ก็ดันได้ระดับหนึ่งนะ จะมาทำให้ช่วงจมูกยาวได้เหมือนคนจมูกยาวคงจะไม่ได้ เพราะโครงสร้างไม่เหมือนกัน
คนที่ช่วงจมูกยาว ปลายจมูกเล็ก เนื้อไม่เยอะมาก จะเสริมออกมาสวยมาก ถ้าเนื้อเยอะใหญ่มากบริเวณปลายจมูกจะไม่สวยเท่าคนเนื้อปลายจมูกเล็ก
ส่วนการตัดปีกจมูกต้องดูเป็นรายๆ ไปถ้าคนไข้เนื้อจมูกเยอะเราจะแนะนำเรื่องของการตัดปีกจมูก แต่บางคนเนื้อปีกจมูกไม่เยอะ แต่ฐานจมูกกว้างมากเรา ก็จะแนะนำเรื่องการเย็บปีกจมูกแทน ดูเป็นรายๆไปเพราะมีหลายวิธี มันมีวิธีการเย็บปีกจมูกให้เข้าไปได้ด้วย ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาหรือโครงสร้างเดิมของคนไข้คืออะไร เราต้องดูเป็นรายๆ ไปมากกว่า บางอย่างอาจจะดีสำหรับคนไข้ เช่น บางคนเย็บปีกจมูกดีกว่าตัด บางคนตัดดีกว่าเย็บ
กรณีคนที่จมูกโด่งแต่มีเนื้อกระดูกปูดขึ้นมา เรียกว่า ฮัมพ์ (Hump) คือ ปุ่มกระดูกนูน ๆ ตรงกลางสันจมูก บางคนอาจจะมีแค่ปุ่มสันเล็กๆ นูนขึ้นมา แต่บางคนก็อาจจะมีกระดูกนูนขึ้นมาเป็นแนวหักอย่างชัดเจน งุ้มยาวลงมาจนถึงปลายจมูก ถ้าเราไปใส่ซิลิโคนแท่ง อาจจะมีข้อเสีย เพราะซิลิโคนอาจจะกระดกไปกระดกมาได้ เพราะกระดูกโก่งเป็นฮัมพ์ขึ้นมา เปรียบเหมือนเราขับรถบนถนนลูกรัง ขรุขระ รถมันก็เด้งดึ๋ง แต่หากเราขาดแค่ช่วงดั้งแต่ปลายจมูกสวยโด่งได้รูป
อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำว่าฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ดีกว่า หรือหากอยากได้แบบถาวรแนะนำให้ฉีดไขมัน หรือหากอยากใส่ซิลิโคนก็ต้องตะไบขัดให้กระดูกที่โก่งเรียบก่อนจะใส่”
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.celeb-online.net
