เมื่อวันที่ 11 ก.พ. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. หรือ 191 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.ทท. นำกำลังตำรวจ 191 พร้อมกำลังตำรวจท่องเที่ยว เข้าจับกุมตัว นายอภิสิทธิ์ เจริญคง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 หมู่ 8 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
ขณะนำสินค้ากว่า 30 รายการไปส่งให้ลูกค้าที่ไปรษณีย์เอกชนแห่งหนึ่งย่านสายไหม จากนั้นควบคุมตัวไปตรวจค้นห้องพัก เอโอเอ อพาร์ทเม้นท์ ชั้น 2 ห้อง 3213 ซอยลาดพร้าว 101 แยก 38 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. พบของกลางกระเป๋าแบรนด์เนม แว่นตา หมวก เข็มขัด และเครื่องประดับต่างๆ รวม 286 ชิ้น มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีพ่อค้าขายสินค้าแบรนด์เนมออนไลน์รายใหญ่ โดยขายสินค้าผ่านทางเฟสบุ๊คในชื่อ พ่อค้า แบ็ค ปากแดง มีผู้ติดตามจำนวน 2,289 คน ซึ่งเปิดไว้สำหรับขายของ นอกจากนั้นยังมีอีกเฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า “อภิสิทธิ์ เจริญจง (แบ็ค ศัลกรรมเปลี่ยนชีวิต)” มีผู้ติดตาม 49,325 คน เพื่อไลฟ์สตรีมจัดโปรโมชั่นขายสินค้าซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก
จึงทำการสืบสวนกระทั่งทราบว่านายอภิสิทธิ์ พักอยู่ที่เอโอเอ อพาร์ทเม้นท์ จึงเฝ้าดูพฤติกรรมและติดตามไปจับกุมตัวได้ที่หน้าไปรษณีย์เอกชนย่านสายไหม โดยพบว่านายอภิสิทธิ์ เปิดห้องไว้อีก 2 ห้องคือห้องเลขที่ 3216 และ 3217 ตรวจสอบทั้ง 3 ห้องพบของกลางพร้อมกล่องกระดาษพัสดุจำนวนมาก
ด้านนายอภิสิทธิ์ รับสารภาพว่า เป็นนักศึกษามหาวิทยาเอกชนแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ศึกษาอยู่ปี 2 ที่ทำเพราะต้องการหารายได้พิเศษทำมาแล้ว 6 เดือน โดย 2 เดือนแรกทำที่บ้านพักย่านสายไหม ก่อนจะมาเช่าห้องเองที่เอโอเอ อพาร์ทเม้นท์เมื่อช่วงปลายเดือนธ.ค.ปี59
โดยเช่าไว้ 3 ห้องซึ่งเช่าเป็นรายวันวันละ 490 บาทต่อห้อง ตนค่อนข้างเป็นคนมีชื่อเสียงในโลกโซเชียล เพราะมีสไตล์การขายของโดยการไลฟ์สตรีมสดผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากและราคาสินค้าถูกกว่าเจ้าอื่น โดยสินค้าทั้งหมดไปรับมาจากตลาดโรงเกลือ นวนคร ลงทุนไปกว่า 3 แสนบาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝากเตือนผ่านสื่อมวลชนไปยังผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ เนื่องจากเป็นนโยบายจากทางรัฐบาลให้ปราบปรามในเรื่องการค้าทรัพย์สินของละเมิดลิขสิทธิ์ อยากให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเพราะจะได้ไม่คุ้มเสียกับที่ลงทุนไปและยังมีอัตราโทษด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาจำหน่ายเสนอจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม เครื่องหมายการค้าของผู้อื่น หรือบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่งตัวสน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป