เมื่อวันศุกร์ ตำรวจสหรัฐฯ ตัดสินใจจับตาย 1 ใน 2 นักโทษคดีฆาตกรรมซึ่งแหกคุกออกไปจากทัณฑสถานในเมืองทางเหนือของรัฐนิวยอร์ก เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. หลังจากใช้เวลาหลายสัปดาห์ตามล่าจนพบตัว…
ริชาร์ด แมตต์ (ซ้าย) ถูกสังหารไปแล้ว ส่วน เดวิด สวีต ยังลอยนวล (ภาพ: AFP)
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายริชาร์ด แมตต์ อายุ 49 ปี 1 ใน 2 ฆาตกรซึ่งก่อเหตุแหกคุกใน ทัณฑสถานคลินตัน เรือนจำความมั่นคงสูงสุดในเมืองแดนเนโมรา รัฐนิวยอร์ก เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. ถูกตำรวจสหรัฐฯ ยิงเสียชีวิตแล้ว หลังจากหลบหนีการจับกุมเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ในป่าใกล้เมืองมาโลนี ซึ่งห่างจากทัณฑสถานดังกล่าวราว 50 กม.
เมื่อวันศุกร์ (26 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น) เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเรียกไปยังพื้นที่ทางใต้ของเมืองมาโลนี หลังเกิดเหตุโจมตีรถแวนคันหนึ่ง และตำรวจพบแคมป์ล่าสุดอยู่ใกล้ๆ และพบหลังฐานที่นักโทษหลบหนีทั้ง 2 คนทิ้งเอาไว้ ต่อมาตำรวจพบตัวนายแมตต์ซึ่งมีปืนลูกซองเป็นอาวุธภายในป่า และตำรวจยิงนายแมตต์เสียชีวิตหลังจากเขาไม่ยอมจำนน
ขณะที่นายเดวิด สวีต อายุ 34 ปี นักโทษคดีฆาตกรรมอีกคนที่หลบหนีออกมากับนายแมตต์ ยังคงลอยนวลซึ่งตำรวจกำลังค้นหาภายในป่าที่พวกเขาพบกับนายแมตต์ ซึ่งตำรวจประกาศเตือนประชาชนว่า นายสวีตเป็นบุคคลอันตรายห้ามประชาชนเข้าใกล้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของทัณฑสถานคลินตันพบว่า นายริชาร์ด แมตต์ อายุ 48 ปี และนายเดวิด สวีต อายุ 34 ปี นักโทษคดีฆาตกรรม หายตัวไปเมื่อเวลาประมาณ 05:30 น. วันเสาร์ที่ 6 มิ.ย. ระหว่างการนับจำนวนนักโทษที่ทัณฑสถานคลินตัน ในเมืองแดนเนโมรา โดยจากการสืบสวนพบว่า ชาย 2 คนนี้ใช้เครื่องมือกลเจาะกำแพงเหล็กและหลบหนีไปทางท่อระบ่ายน้ำจนไปโผล่ที่ท่อระบายน้ำนอกเรือนจำ
ต่อมา ศาลสหรัฐฯ ตั้งข้อหานางจอยซ์ มิตเชล พนักงานของทัณฑสถานคลินตัน ฐานมอบเครื่องมือเจาะหรือตัดให้แก่นักโทษคดีฆาตกรรมทั้ง 2 คน ช่วยเหลือให้ทั้งคู่หลบหนีออกจากเรือนจำแห่งนี้สำเร็จ
อนึ่ง นายแมตต์ได้รับการพิพากษาว่ามีความผิดจริงในข้อหาฆาตกรรม 3 กระทง ลักพาตัว 3 กระทง และชิงทรัพย์ 2 กระทง หลังจากเขาก่อเหตุลักพาตัวชายคนหนึ่งและทำร้ายจนถึงแก่ความตาย เมื่อเดือน ธ.ค. 1997 และถูกลงโทษจำคุก 25 ปีเป็นอย่างน้อย ขณะที่นายสวีตต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีการภาคทัณฑ์ หลังถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในข้อหาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา ในคดีฆาตกรรมรองนายอำเภอเขต บรูม เคาน์ตี รัฐนิวยอร์ก เมื่อเดือน ก.ค. 2002