ที่มา: สำนักข่าวไทย

ช่วงก้าวล้ำนำความก้าวหน้า และผลงานการพัฒนาต่างๆมานำเสนอ วันนี้ไปดูเทคโนโลยีรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมและสมาร์ทโฟนซินโดรม โดยใช้เทคโนโลยีหลายแบบ เช่น การใช้ความร้อนและการใช้ความเย็น

1444629542-7789afe818f1c85e486c104912f975b4

เทคโนโลยีใช้ความเย็นบำบัด จากเครื่อง chyoflow ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ที่อุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส สาเหตุจากโรคออฟฟิศซินโดรมและสมาร์ทโฟนซินโดรม นอกจากความเย็น ยังมีการใช้อุปกรณ์ที่ให้ความร้อน และเทคโนโลยีรักษาในแบบอื่นๆ

เครื่อง Shock wave นี้ ปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูง กดไปยังจุดที่ผู้ป่วยปวดกล้ามเนื้อมาก แรงกดจะช่วยคลายจากอาการปวด คลื่นเสียงอัลตร้าซาวน์ ใช้เพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้เนื้อเยื่อลดการตึงตัว

1444629555-1d9f8f65e9448d29a48419fd6cc6390d

ส่วนที่แผ่นหลัง นักกายภาพใช้อิเล็กโทรด สุญญากาศ วางลงบนจุดที่ปวด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา หรือการใช้แสงเลเซอร์บำบัด ใช้กับผู้ป่วยที่ปวดกล้ามเนื้อในจุดพื้นผิวเล็กๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเฉพาะจุด

นักกายภาพบำบัดบอกว่านอกจากการใช้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ไอที ด้วยท่าเดิม ต่อเนื่องยาวนาน ความเครียดยังเป็นตัวกระตุ้นสำคัญของออฟฟิศซินโดรม ส่งผลให้ผู้ป่วยหายใจผิดวิธี กระทบต่อเส้นเลือด เส้นประสาทบริเวณลำคอ ทำให้การไหลเวียนเลือดไปยังบ่าไหล่และแขนติดขัด

1444629604-8a100b5f3bae6a0dea35d2a2dcb0c810

ผลจากการต่อยอดงานวิจัยของนักวิชาการคณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล ล่าสุด ยังพบการศึกษาท่าทางที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถวิเคราะห์อาการตนเองได้ก่อน โดยการกางแขนยกมือขึ้นและลงสลับกัน หากมีอาการปวด ควรรีบปรับท่านั่งทำงาน เพราะเป็นสัญญาณเตือนของออฟฟิศซินโดรม หากกางแขน หงายมือ แล้วยกขึ้นเหนือศรีษะทำได้ยากลำบาก อาจเป็นสัญญาณของไหล่ติด หรืออีกหลายอาการที่รุนแรงและเรื้อรัง หากกายภาพบำบัดไม่หาย อาจต้องใช้การผ่าตัด โดยเฉพาะเส้นประสาทช่วงแขน ซึ่งหลังการรักษา ก็ไม่อาจใช้งานได้เหมือนเดิม

1444629629-e19ea08e946acea7d0233060050e8148

1444629654-20c7f2a64cbd2d2e4c73870f0a901c5e

เรื่องน่าสนใจ