เรียบเรียงโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพจาก นิตยสาร mars,ผู้จัดการ
ผู้สื่อข่าว เว็บไซต์โดดเด่นดอทคอม ( www.dodeden.com ) รายงานว่า ความเชื่อไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลังไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ที่น่าแปลกคือ อยู่ดีๆ กุมารทองนุ่งโจงกระเบนที่เราคุ้นตากลายร่างเป็นตุ๊กตาฝรั่งแสนน่ารักไปเสียได้
เกิดอะไรขึ้นกับหน้าตา รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป คนบูชาเพราะความเชื่อหรือรูปลักษณ์ภายนอกกันแน่ และทำไมความเชื่อไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลังสามารถตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง คนชั้นกลางได้
ทำไมไทยจึงเป็นผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ทางความเชื่อในภูมิภาคนี้ ลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดสำหรับวัตถุมงคลคือกลุ่มประเทศไหน mars ชวนมาขุดคุ้ยหาคำตอบให้ปรากฏการณ์นี้
อาจารย์เทพ พงศาวดาร เจ้าของสำนักพงศาวดาร และเจ้าของไอเดีย ‘กุมารทองบาร์บี้’ บอกว่า “จริงๆ ความเชื่อเกี่ยวกับกุมารทองมีมาตั้งแต่หลายพันปีก่อน สมัยที่ขอมเรืองอำนาจ แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน
จนกระทั่งเรามาเห็นอีกทีในบทเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ซึ่งโดยตำนานขุนแผนมีตัวตนจริงๆ เป็นนักรบที่ทำกุมารทองโดยมีจุดประสงค์ดั้งเดิมคือเอาไว้ทำร้ายศัตรู หรือที่เรียกว่า ‘กุมารเพชฌฆาต’ จนมาถึงยุคของ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จังหวัดนครปฐม
จุดประสงค์ของการทำกุมารทองเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นทำเพื่อเอาไว้เฝ้าไร่นา ไม่ให้มีคนมาขโมยผลผลิตที่ชาวบ้านปลูก จากนั้นก็ค่อยพัฒนามาเป็นกุมารทองที่ช่วยในเรื่องค้าขายและโชคลาภ
พอมายุคปัจจุบันที่การแข่งขันด้านค้าขายรุนแรงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายของทางอินเทอร์เน็ตที่ทุกคนขายเหมือนกันหมด เด็กรุ่นใหม่เลยต้องหาวิธีการที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจของตัวเอง
แต่หลายคนเห็นหน้าตากุมารทองหรือพวกเครื่องรางของขลังแล้วรู้สึกว่ามันน่ากลัว บ้านฉันมีคิตตี้เต็มไปหมด ถ้าเลี้ยงกุมารก็อาจจะดูไม่เข้ากัน เพื่อนมาเห็นก็โดนล้อว่าเล่นของ คือสังคมจะมองเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องงมงาย หรือบางคนแต่งตัวโก้เก๋แต่มาเลี้ยงกุมารทอง ทำให้คนอื่นมองไม่ดี มันเลยเกิดปัญหาว่าจริงๆ คนอยากบูชาแต่ไม่กล้า
ผมเลยเกิดความคิดเอาตุ๊กตาพวกนี้มาทำเป็นกุมารทอง เพราะผู้หญิงก็ต้องคู่กับตุ๊กตา ทำให้ดูน่ารัก แต่ก็ยังใส่มวลสารอย่างดิน 7 ป่าช้า ผมผีตายโหง ผงกระดูกเด็กเข้าไป อัญเชิญครูบาอาจารย์และปลุกเสกตามแบบที่เคยทำดั้งเดิม กรรมวิธีทุกอย่างเหมือนกัน
เพียงแต่เปลี่ยนรูปลักษณ์ให้น่ารักขึ้นเท่านั้น ค่อยๆ พัฒนาหน้าตามาได้ 4-5 ปี ค่อยๆ เริ่มเพนต์สี เพนต์โดยใช้แอร์บรัช เขียนหน้าตา ฝังเพชรพลอยให้สวยงาม คือ เราใส่ความเป็นศิลปะเข้าไปด้วย ราคาเริ่มต้นแบบปลุกเสกแล้วจึงอยู่ที่ 5,500-15,000 บาท เพราะมีค่าฝีมือ การเขียนยันต์ ความเป็นศิลปะรวมอยู่ในนั้นด้วย รวมถึงราคาตุ๊กตาที่เราเลือกใช้แบรนด์นำเข้าจากอเมริกา ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับว่าทำตุ๊กตาเด็กได้ดีที่สุด”
ทั้งนี้ น้ำส้ม-กฤตยา ทับทิมผล อดีตพริตตี้สาวสวยชื่อดังที่คนในวงการรู้จักในชื่อ ‘น้ำส้ม โซมี่’ ตอนนี้เธอผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงามอย่างเต็มตัว และเป็นอีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่คอนเฟิร์มกับเราว่าเธอทั้งเชื่อและศรัทธาในเครื่องรางของขลังไม่แพ้ใคร
“ความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่เราเชื่อว่าลึกๆ แล้วทุกคนมีพื้นฐานความเชื่อเรื่องพวกนี้เหมือนกันหมด อยู่ที่ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหน แล้วจริงๆ เวลาขออะไรจากน้องกุมารทองไม่ใช่ว่าจะได้ทุกครั้งนะ
สิ่งสำคัญคือเราต้องกระตือรือร้นที่จะทำงานด้วย เครื่องรางของขลังเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้เราคิดดี พอคิดดีก็จะมองทุกอย่างเป็นบวก
แล้วสิ่งบวกๆ ก็จะเข้ามาหาตัวเราเอง มันเหมือนเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่ง คิดดี สิ่งดีๆ ก็จะเข้ามา คิดลบแล้วยิ่งไม่มีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็ยิ่งทำให้เราไม่มีกำลังใจ แต่สุดท้ายเราจะได้อะไร ส่วนหนึ่งมันก็ต้องมาจากตัวเราทำเองด้วย”
เช่นเดียวกันกับ นิกกี้-ณัฐณิชา สกุลจารุพงศ์ พริตตี้เงินล้านสุดเซ็กซี่ที่เพิ่งได้รับการโหวตให้เป็นพริตตี้อันดับ 1 ของประเทศไทย ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อว่าเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อใน ‘สิ่งที่มองไม่เห็น’ ด้วยเช่นกัน