แว่วมาว่า “ถั่วแระ เชิญยิ้ม” เตรียมสละเก้าอี้นายกสมาคมตลกแห่งประเทศไทย เหตุน้อยใจเพื่อนร่วมวงการอย่าง “ชูษี” และ “ยาว อยุธยา” ที่มีปัญหากัน ซึ่งงานนี้ “ถั่วแระ” เปิดใจว่า
วงการตลกมีเรื่องแรงๆ ในฐานะนายกสมาคมคิดยังไง ?
“ตอนนี้ผมว่าคลื่นลมมันก็เริ่มสงบไปแล้วนะ ผมก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้วล่ะ เพราะว่าทุกคนก็เป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่ในวงการก็พยายามปรามทั้งพี่ทั้งน้องให้อยู่ในระบบของสมาคมนะครับ แล้วก็ทางสมาคมก็รู้สึกเสียใจที่มันเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นบ่อยเหลือเกิน
แต่ว่าทำยังไงได้ครับ บางคนเขาก็มองต่างมุมกัน บางคนมองมุมนี้ว่ากลม บางคนมองมุมนี้ว่าเหลี่ยมก็เลยต้องเกิดการวิจารณ์วิเคราะห์กันขึ้นมา แต่ทุกเรื่องราวตอนนี้มันก็สงบแล้วครับ”
เรื่องที่ผ่านมาได้เรียกมาคุยไหม ?
“ผมยังไม่ได้เรียกฝ่ายใดเข้ามาคุยเลยนครับ เขาคิดวิเคราะห์แยกแยะกันเองอยู่แล้วว่าอะไรผิด อะไรถูก
เพราะฉะนั้นบางครั้งเราควรหรือไม่ควรก็ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจด้วย ไม่ใช่เราจะอวยกับเขาไปซะทุกเรื่อง เดี๋ยวถ้าเขาย้อนกลับมาว่ามันใช่หน้าที่ของพี่ไหม อย่างนี้เราก็ต้องระวังเนื้อระวังตัวอยู่เหมือนกัน เพราะมันเป็นเรื่องราวของธุรกิจ”
มีมาตรการป้องกันความขัดแย้งในอนาคตไหม ?
“คงไม่มีเรื่องราวที่จะมาป้องกัน หรือมาบอกศิลปินทุกคนหรอกครับ เพราะว่าทุกคนโตแล้ว ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรผิดอะไรถูก เพราะฉะนั้นผมพยายามที่จะกล่อม พยายามจะชี้แนะให้กับหมู่มวลให้กับสมาชิกทุกคนตระหนักในเรื่องของบทเพลงของสมาคม
ซึ่งสมาคมมีบทเพลงอยู่ 1 บทเพลงที่แต่งไว้ตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมเข้าไป มันเป็นเรื่องราวทั้งหมด ถ้าใครได้คิดและวิเคราะห์ไปอ่าน หรือไปฟังในยูทูปจะเรื่องราวทุกเรื่องเนี่ยมันเป็นเรื่องราวทุกเรื่องของศิลปินตลก หรือของศิลปินทุกท่านควรจะหยิบยกขึ้นมาวิเคราะห์และฟังกันให้ดีว่า เออบทเพลงนี้มันดีมากๆ เลย”
เป็นคนกลางเหนื่อยไหม ?
“โอ้ เหนื่อยสิครับการเป็นคนกลาง เราจะเข้าข้างใครไม่ได้เด็ดขาด เราจะพูดอะไรแรงไปให้เขามาวิเคราะห์วิจารณ์กันอีกก็คงเป็นไปไม่ได้ เราต้องพยายาม ตะล่อมให้ทั้ง 2 ฝ่าย หรือทั้ง 2 คน หรือว่ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็แล้วแต่ให้อยู่ในเรื่องราวของในสิ่งที่ดีงามอยู่ตลอด”
เห็นว่าเพราะเรื่องนี้เลยคิดอยากจะลาออกจากนายกสมาคม ?
“ตรงนั้นไม่ใช่ประเด็นที่ว่าทุกคนทำให้เกิดปัญหาแล้วอยากจะออกหรอกครับ มันไม่ใช่ ผมว่ามันถึงเวลา ข้าราชการยังมีเกษียณเลย แล้วผมก็ไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือนด้วย ผมไม่มีเงินเดือน เป็นจิตอาสา
เพราะฉะนั้นมันก็ต้องถึงเวลาที่ผมต้องเกษียณตัวเองบ้าง ทำดีทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดิน ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม เราเป็นจิตอาสามาตลอด เสียสละมาตลอดแล้ว เราทำดีมามากพอแล้วก็อยากจะแบ่งเบาภาระตัวนี้ออกไปบ้าง เพื่อที่จะหันกลับมาดูในบ้างดูบ้างในครอบครัวดูบ้างเท่านั้นเองครับ”
คิดไว้ว่าเมื่อไหร่ ?
“ก็คงจะเป็นเมื่อหมดวาระแหละครับประมาณ 2559”
แพลนไว้ไหมให้ใครขึ้นมาแทน ?
“ก็กำลังทาบทามอยู่ครับว่าเขาจะโอเคหรือไม่โอเค ตอนนี้ก็กำลังหาอยู่ครับ”