ความคืบหน้าจากกรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพคนแขวนคอลูกแมว แล้วเหวี่ยงไปมา ทางพนักงานสอบสวนตำรวจสภ.แม่โจ้ (ส่วนแยก) เชียงใหม่ เรียกสอบหนุ่มในคลิปเข้าสอบถามข้อเท็จจริง ว่าเข้าข่ายทารุณสัตว์หรือไม่ ด้านหนุ่มยืนยันไม่ได้ตั้งใจ เพียงแค่อาบน้ำแล้วสะเด็ดให้แห้ง ขณะที่มูลนิธิสันติสุข ดอยสะเก็ด ส่งตัวลูกแมวไปตรวจโรงพยาบาลสัตว์ พร้อมรับไว้ดูแลก่อนหาผู้อุปการะเลี้ยงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ในสังคมเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปภาพชายกำลังนำเชือกผูกคอลูกแมวสองตัวเดินไปมาให้บ้าน และยังมีการถือปลายเชือกที่ผูกคอลูกแมวตัวน้อยทั้ง 2 ตัวแกว่งไปมา พร้อมทั้งโพสต์ข้อความว่า
“ช่วยด้วยคะคือเราไม่รู้จะทำยังไงเราอาบน้ำอยู่แล้วเราได้ยินเสียงลูกแมวร้องดังมากเราก็สงสัยว่าทำไมร้องอะไรขนาดนั่นเราเลยมองออกไปทางหน้าต่างเราเจอกับอะไรที่แม้ง—-มากเลยคะตามคลิปเลยคะ มีหลายคลิปมากคะ คือคนแถวนั่นก็มาถามว่าแมวเป็นอะไรทำไมร้องดังขนาดนั้นไอ—-นี้ก็มันก็บอกว่า เอาแมวไปอาบน้ำมาเลยเอามันมาแขวนไว้ให้แห้ง! คือตอนนี้เราไม่รู้จะทำไงดีเราอยู่บ้านคนเดียวละเราก็ไม่กล้าไปเอาเรื่องหรืออะไร……ใครอยู่แถวนี้มาช่วยเราหน่อยได้ไหมคะ. ถ้ามีใครอยู่แถวนี้อินบล็อคมาเลยคะ เรากลัวมากกลัวน้องแมวตาย ขอความช่วยเหลือด้วยคะเราไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ เห็นครั้งแรกน้ำตาไหลเลยคะไม่รู้ว่าทำไมเค้าถึงกล้าทำแบบนี้ได้”
โดยได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าที่ทำลงไปนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะทารุณลูกแมวแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนได้นำลูกแมวทั้งหมดอาบน้ำแต่เนื่องจากว่าลูกแมวตัวเปียก จึงได้นำมาตาก แต่เห็นว่าวันนี้ฝนตกไม่มีแดด จึงนำลูกแมวทั้งหมดมาแขวนกับยางรัดของที่เป็นยางยืด เพื่อตั้งใจจะให้ลูกแมวตัวแห้ง จากนั้นก็ได้จับลูกแมวเหวี่ยงไปมาตามที่ปรากฎอยู่ในคลิป แต่ไม่คิดว่าจะเป็นภาพที่ทารุณกรรม
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายเอ และผู้ถ่ายคลิป มาสอบสวนข้อเท็จจริงและรับฟังเรื่องราวจากทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ความเป็นธรรม ส่วนในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหานั้นยังคงต้องรอการตรวจสอบว่าลูกแมวทั้งหมดได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จากนั้นจึงจะตัดสินดำเนินคดีกับทางผู้กระทำผิด ส่วนลูกแมวทั้งหมดล่าสุดทางทางมูลนิธิสันติสุข ดอยสะเก็ด ได้เข้าทำการรับตัวลูกแมวทั้ง 4 ตัว พร้อมทั้งแม่แมวไปดูแลก่อนเบื้องต้น แล้วจะได้ประสานหาผู้ใจบุญมารับเลี้ยงต่ออีกครั้ง ตอนนี้คงต้องรอผลตรวจบาดแผลของลูกแมวก่อนว่า ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระทำหรือไม่