เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานประเพณีไหลเรือไฟ จ.นครพนม ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-28 ตุลาคม รวม 9 วัน ซึ่งเป็นงานประเพณีที่ชาวบ้านแถบลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นการขอขมาพระแม่คงคา ในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำเดือน 11 หรือวันออกพรรษา ซึ่งตรงกับวันที่ 27 ตุลาคม นี้
โดยในวันดังกล่าวจะมีพิธีไหลเรือไฟที่ยิ่งใหญ่อลังการบนสายแม่น้ำโขง ซึ่งจะมีเรือไฟจากอำเภอต่างๆใน 12 อำเภอ และหน่วยงานภาครัฐ จะนำเรือไฟมาไหลลอยล่อง เป็นรูปทรงต่างๆ แต่ละลำประดับประดาด้วยตะเกียงน้ำมันหลายหมื่นดวง ก่อนจุดพลุตะไลไฟพะเนียง ท่ามกลางกระทงสายระยิบระยับ เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว
นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอศรีสงคราม กล่าวว่า ประเพณีไหลเรือไฟปีนี้ได้ทุ่มงบประมาณจำนวน 3-4 แสนบาท ซึ่งได้รับสนับสนุนจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 30 แห่ง ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านกว่า 100 คน จัดสร้างเรือไฟยาวที่สุดในโลก ความยาว 117 เมตร สูง 37 เมตร สูงเท่าตึกร่วม 10 ชั้น ใช้ถังน้ำมัน 200 ลิตรมากถึง 350 ใบ ไม้ไผ่ที่ชาวบ้านจากตำบลใกล้เคียงตัดนำมามอบให้ 14,000 ลำ ประดับด้วยตะเกียงน้ำมัน 32,000 ดวง
ขณะที่แรงงานนักศึกษาในพื้นที่ชาวบ้าน ผู้นำชุมชนได้เร่งกรอกน้ำมันก๊าดผสมน้ำมันโซล่าจากถังน้ำมัน 200 ลิตร จำนวน 20 ถัง ใส่ดวงตะเกียงกระป๋องเครื่องดื่มมีไส้ไว้จุดไฟ หลังจากเริ่มลงมือสร้างตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่าน จะให้แล้วเสร็จทันก่อนวันไหลเรือไฟวันที่ 27 ต.ค. อย่างแน่นอน พร้อมจุดพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ซึ่งได้ว่าจ้างจาก จ.สุพรรณบุรี ในราคา 1 แสนบาทด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรูปทรงเรือไฟของอำเภอศรีสงครามปีนี้ เป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ บนเศียรพญานาคเป็นรูปพระพุทธเจ้า และพระธรรมจักรหมุนแสดงถึงชาติไทย มีพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยตั้งเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกลำนี้ว่า “เรือมัจฉาวารี ศรีสงคราม” มีรูปปลาตะเพียนตัวใหญ่เป็นฐาน ซึ่งบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์และวิถีชีวิตของคนลุ่มแม่น้ำสงคราม
ด้านหอการค้าจังหวัดนครพนม กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจปีนี้จะซบเซาก็ตาม แต่วิถีชีวิตคนอีสานในสายเลือดชอบทำบุญในช่วงวันออกพรรษาปีนี้ ซึ่งมีงานประเพณีไหลเรือไฟที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ขณะที่โรงแรม รีสอร์ตและที่พักในตัวเมืองนครพนมถูกจองเต็มล่วงหน้า 3 เดือน รวมถึงโรงแรมที่พักในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน และอ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นอำเภอใกล้เคียงก็ถูกจองเต็มแล้วเช่นกัน คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนสะพัดในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
