จากกรณีในโลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงคลิปวิดีโอจากเพจ ‘อยากดังเดี๋ยวจัดให้V.4’ ที่บันทึกเหตุการณ์ขณะชายคนหนึ่งต่อยหน้าชายอีกคนเป็นจำนวนหลายครั้ง พร้อมกับด่าทออย่างรุนแรง และต่อมาทราบว่าหนุ่มเจ้าของรถมินิ ที่ทำร้ายคู่กรณีคือ น๊อต – อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ น๊อต เวคคลับ พิธีกรรถโรงเรียน ทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.เเหล่งข่าวนักกฎหมายจากสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวถึงกรณีคนขับรถมินิคูเปอร์ ทำร้ายคนขับมอเตอร์ไซด์ จนดั้งหักว่า กรณีนี้ถึงคู่กรณีไม่แจ้งความ แต่เรื่องนี้ผิดทำร้ายร่างกายอันเป็นอันตรายเเก่ร่างกายเเละจิตใจตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ระบุไว้ว่า ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งเป็นอาญาแผ่นดิน ถึงผู้เสียหายไม่แจ้งความตำรวจก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหา
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวรที่ทราบเหตุจะต้องแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม ม.295 เเละถ้าหากผู้ถูกกระทำมีอาการสาหัสก็จะต้องเเจ้งมาตรา297ซึ่งระบุไว้ ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงสิบปี
ซึ่งการถูกทำให้จมูกหักตามกฎหมายเเล้ว หากได้รับทุกขเวทนาเกินกว่า20วันเป็นอันตรายสาหัส หากตำรวจไม่ดำเนินการเเจ้งข้อกล่าวหาจะถือว่าตำรวจทำผิด ก.ม.ได้
อีกทั้งเมื่อดูจากพฤติการณ์การกระทำผิดเเล้วคนขับมินิคูเปอร์ ยังมีการกระทำผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า
ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วย
ส่วนความผิดของผู้ขับขี่จักรยานจนเฉี่ยวชน เบื้องต้นดูจาก พฤติการณ์ไม่ได้เจตนาหลบหนี แต่ต้องดูข้อเท็จจจริง ให้เเน่ชัด เเละการชนดังกล่าวว่าเป็นการประมาทหรือไม่ ถ้าประมาทก็ผิด พ.ร.บ. จราจร ประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย
แต่ถ้าหากคนขับมอเตอร์ไซต์ชนแล้วหนีก็จะเป็น มาตรา 78 ของ พ.ร.บ.จราจรทั้งบก ผู้ใดขับรถหรือขี่หรือควบคุมสัตว์ ในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้ขับขี่ หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์หรือไม่ก็ตาม ต้องหยุดรถ หรือสัตว์ และให้ความ ช่วยเหลือตามสมควรและพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ใกล้เคียงทันที กับต้องแจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล และที่อยู่ของตนและหมายเลข ทะเบียนรถแก่ผู้ได้รับความเสียหายด้วย
ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์หลบหนี้ไป หรือไม่แสดงตัว ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่เกิดเหตุ ให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้กระทำ ความผิดและให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจยึดรถคันที่ผู้ขับขี่หลบหนี้ หรือไม่แสดงตนว่าเป็นผู้ขับขี่จนกว่าคดีถึงที่สุดหรือได้ตัวผู้ขับขี่ ถ้าเจ้าของ หรือผู้ครอบครองไม่แสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในหกเดือนนับแต่ วันเกิดเหตุ ให้ถือว่ารถนั้นเป็นทรัพย์สินซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือเกี่ยวกับการกระทำความผิดและให้ตกเป็นของรัฐ
มาตรา 160 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 78 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ