นัก ธุรกิจนำเข้าเบเกอรี่ ชาวเนปาล น้อยใจเมียชาวไทยที่อยู่กินมานานกว่า 10 ปี จนมีบุตร 2 คน หนีมาเปิดห้องเช่าย่านพระโขนงผูกคอตาย ทิ้ง จม. ลาให้ลูกชายคนโตดูแลแม่และน้อง
วันนี้ (29 ก.ย.) ร.ต.ท.จุฑาพงศ์ ชาญดิลกโชติ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุชายผูกคอเสียชีวิต อาคารปาร์ค อเวนิว เลขที่ 446/16 ซอยปรีดีพนมยงค์ 20/1 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.จีรเดชน์ เหมจินดา ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.ท.กิตติพัทธ์ เที่ยงน้อย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พลวรรธน์ พุ่มสวัสดิ์ สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น แบ่งให้เช่า บริเวณชั้น 5 ห้องเลขที่ 446/54 เปิดเป็นบริษัท อีสท์ วิน เอเชีย จำกัด ภายในห้องน้ำพบศพ นายดีล บาฮาดูร์ ทาปา อายุ 42 ปี ชาวเนปาล ในสภาพนั่งพิงอยู่กับมุมกำแพง สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ ใช้สายไฟผูกคอตัวเองกับหน้าต่างช่องลมเสียชีวิต
จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้รื้อค้นแต่ อย่างใด พบเพียงแต่จดหมายและรูปภาพครอบครัว ซึ่งถูกพิมพ์ลงในกระดาษขนาด เอ4 พบเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของผู้เสียชีวิต มีใจความตัดพ้อเกี่ยวกับความเครียดทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัว โดยฝากถึงลูกทั้งสองว่า “ให้ลูกชายคนโตดูแลแม่และน้องให้ดี จงเป็นคนที่เข้มแข็ง อย่าอ่อนแอเหมือนกับตน ด้วยรักจากพ่อ”
ร.ต.ท.จุฑาพงศ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นางธัญญาภัทธ์ ทาปา อายุ 34 ปี ภรรยา ให้การว่า ได้แต่งมีครอบครัวกับนายดีล กว่า 10 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน และเปิดบริษัททำธุรกิจนำเข้าเบเกอรี่จากต่างประเทศ ซึ่งได้ย้ายมาเช่าอาคารดังกล่าว เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า โดยจะมีการเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุตนและสามีได้ทะเลาะกันมาตลอด จนถึงขั้นจะหย่าร้างกัน แต่สามีไม่ยอม ทำสามีเกิดความน้อยใจและได้ออกจากบ้านมาพักอาศัยที่ห้องดังกล่าวตั้งแต่ เมื่อคืนของวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งมาพบว่าสามีตนเองผูกคอตายในวันนี้
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายผูกคอตายด้วยตนเอง เพราะมีปัญหากับภรรยาบ่อยครั้ง เนื่องจากผู้ตายได้มีการทิ้งจดหมายลาตายไว้ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากผู้ตายเกิดความน้อยใจที่ทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้งจนเกือบหย่าร้าง กัน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการการส่งศพให้แก่แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ที่มา : http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000111937
