สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการสหรัฐได้เริ่มดำเนินการไต่สวนกรณีคดีช็อก น.ส.อู่หยาง เซียงหยู ชาวสิงคโปร์วัย 27 ปี นักศึกษาทุนปริญญาเอกแพทย์ของสถาบันสิงคโปร์ และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดของสหรัฐ ได้ก่อเหตุสุดโหด ใช้สารเคมีวางยาพิษเพื่อนร่วมชั้นเรียนชาวเอเชียของเธอ โดยเจ้าตัวมีบุคลิกเป็นคนเงียบและขี้อาย
รายงานระบุว่า เหตการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยน.ส.อู่หยาง อดีตนักศึกษาจากวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ และวิทยาเทมาเสก ได้รับทุนศึกษาดังกล่าวจากสถาบันวิจัยด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ของสิงคโปร์ เมื่อปี 2013 และมีกำหนดจะสำเร็จการศึกษาในปี 2018 ก่อนเดินทางกลับประเทศ โดยเจ้าตัวกำลังทำวิจัยเรื่องโรคมะเร็ง โดยเจ้าตัวมีบุคลิกเป็นคนเงียบและขี้อาย แต่ปรากฎว่าเธอได้ก่อคดีช็อก เมื่อเธอได้ลอบเข้าไปในห้องทดลอง และได้แอบใส่สารเคมีในขวดน้ำดื่ม ก่อนที่สองนักศึกษาหญิง 2 รายที่เป็นชาวเอเชีย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอ จะดื่มและเกิดอาการลำคอไหม้
โดยสารเคมีดังกล่าวเป็นประเภท paraformaldehyde ซึ่งใช้สำหรับดองเนื้อเยื่อ ที่มีอยู่ในห้องแล็บทดลอง และเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ตำรวจได้เริ่มการสอบปากคำ เธอปฏิเสธว่า สารเคมีดังกล่าวในขวดน้ำสองขวดไม่ได้เป็นของเธอ และอ้างว่า ขณะเกิดเหตุ เธอมีอาการนอนไม่หลับและวิงเวียนศีรษะ และต้องการความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ และไม่เคยมีความตั้งใจทำร้ายผู้อื่น โดยเหตุดังกล่าวอยู่เหนือการควบคุมของเธอเล็กน้อย ขณะที่ทางการได้อนุญาตให้เธอได้รับการประกันตัว แต่ปฎิเสธไม่ยอมให้เดินทางกลับประเทศสิงคโปร์บ้านเกิด
ขณะที่สื่อท้องถิ่นสิงคโปร์ได้บุกไปสัมภาษณ์ครอบครัวเธอ ระบุว่า ลูกสาวของเขามีภรรยาคอยดูแลอยู่ที่เมืองนอก และเขาไม่รู้เรื่องอาการป่วยทางจิตของลูกสาวเขาเลย และหากรู้ ก็จะส่งไปรักษาแต่เนิ่นๆแล้ว ขณะที่รายงานระบุว่า ตามกฎหมายรัฐแคลิฟอร์เนีย คาดว่าเธออาจถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปี หากพบว่าผิดจริง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า นักศึกษาปริญญาทุนหัวดีรายนี้เตรียมจะอ้างต่อศาลว่าเธอเป็นผู้วิกลจริต เพื่อให้รอดพ้นจากการจำคุก
ด้านสถาบันการวิจัยเพื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสิงคโปร์ ระบุว่า รู้สึกวิตกอย่างยิ่งกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยทางสถาบันจะยังไม่ดำเนินการใด ๆ จนกว่าจะมีการสรุปกระบวนการสอบสวนเสียก่อน