จากกรณีนายนราวุฒิ พวงเกษร อายุ 28 ปี บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 คณะบริหารธุรกิจ ม.กรุงเทพ เสียชีวิตอย่างปริศนา บริเวณทางขึ้นภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ฟันธงสาเหตุการตาย
เผยผู้ตายมีโลกส่วนตัวสูง และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจคราบเลือด ลายนิ้วมือแฝงบนระฆัง พร้อมจำลองพฤติกรรมที่เกิดขึ้น รวมทั้งตรวจสอบวงจรปิดจับภาพผู้ตายเดินจงกรมบริเวณ หอระฆัง พร้อมทำท่าเหมือนนกบิน ขณะที่แม่ชีได้ยินเสียงกรีดร้อง และระฆังดังเป็นจังหวะ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ไปป์ วรุตม์ธร ( ซ้ายมือ ) เพื่อนสนิทของ ปอ นราวุฒิ ที่เสียชีวิตปริศนาบริเวณทางขึ้นวัดภูเขาทอง
ล่าสุด นายวรุตม์ธร ภิรมย์ภรณ์ภักดี หรือ ไปป์ เพื่อนสนิท นายนราวุฒิ พวงเกสร หรือ ปอ กล่าวกับเว็บไซต์โดดเด่นดอทคอมว่า “ตนอยากเก็บความทรงจำดีๆ ความประทับใจไว้ หลับให้สบายนะพี่ใหญ่ หลายวันที่ผ่านมา ฉันเอาแต่ครุ่นคิด เรื่องเก่า ๆ แล้วก็โทษตัวเองว่า ถ้าในวันนั้นฉันอยู่กับแกด้วย
ถ้าฉันสู้สักนิด ที่จะกลับเข้าไปในชีวิตแก ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้ ถ้าแกอยู่ แกคงพูดว่า #อิบ้าคิดเยอะ ใช่ไหม ตอนนี้แกสบายใจได้แล้วนะ คนรอบตัวเราดีกับฉันทุก ๆ คน ทุกคนช่วยพยุง และนำทางฉันกลับมา ฉันเลยคิดได้ว่า ฉันคือคนที่รู้ใจแกมากที่สุด
เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่แกจะยอมเปิดใจคุยด้วยทุก ๆ เรื่อง เพราะฉะนั้นฉันต้องเข้มแข็งขึ้นแทนในส่วนของแกด้วย หมดห่วงได้แล้วนะ ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด ทดแทนในส่วนของแกด้วยนะ
ปอ นราวุฒิ ( ซ้ายมือ ) ผู้เสียชีวิต เป็นเพื่อนที่ดี และทุกคนชื่นชอบอุปนิสัย โดยมี ไปป์ เป็นเพื่อนสนิท
ถ้าหากสิ่งที่พระอาจารย์หลาย ๆ วัดที่ฉันกับแกเคยไปไหว้ด้วยกัน พูดมันเป็นจริง ฉันมั่นใจว่าเราจะได้พบกันอีก แกไปทำสปา อบไอน้ำ ตีฟาร่ารอฉันเลยนะ อาจจะเลทสักนิด นานไปหน่อย แต่ฉันต้องได้ไปหาแกแน่ ทนเหงาสักพักนะ แล้วฉันจะไปคุยให้หูดับเลยล่ะ RIP My Beloved Sister : 1989 – 2016
ไปป์ เพื่อนสนิท ปอ นราวุฒิ ผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ ไปป์ – วรุตม์ธร กล่าวอีกว่า “คือผมกับเค้าเรารู้จักกันตอนม.1 แต่อยู่คนละห้อง ผมห้อง 1 เค้า ห้อง 2 แต่เห็นครั้งแรกก็เหมือนถูกชะตากัน คุยกันถูกคอ เค้าเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง แกล้งไรไม่ค่อยโกรธ แนวเด๋อนิด ๆ เหมือนไม่รู้ว่าโดนกัด โดนแกล้ง ซึ่งมันเป็นสเน่ห์ของเค้าเลย น่ารักมากคับ
พอม.2 ได้มาอยู่ห้องเดียวกัน เริ่มสนิทกันมากขึ้น แล้วแบบความคิดเด็ก ๆ อะคับ ตอนแรกผมชื่อปฏิพัทธ์ เค้าชื่อปริวัตน์ ชื่อเล่นไปป์ ปอ เพื่อนจะชอบบอกว่า แกสองคนเป็นพี่น้องกันเหรอ เราสองคนก็รู้สึกดีกับเรื่องพวกนี้ด้วย สนิทสนม ไปเล่น ไปเที่ยวกันมาตลอด
พอขึ้นม.ปลายเริ่มโต กลุ่มก็ใหญ่ขึ้น เพื่อนเยอะขึ้นแต่เรากลับยิ่งสนิทกันมากขึ้น ตอนนั้นผมตัดสินใจอยากเรียน รด. แต่ไม่มีเพื่อน เลยไปชักชวนเค้า เค้าตอบตกลงแบบไม่รอปรึกษาที่บ้านเลย ทั้ง ๆ ที่เค้ารักสวยรักงามมาก กลัวแดด กลัวสิวขึ้น
ช่วงรด.นี่ละครับ ที่ทำให้เราสนิทกันเหมือนพี่น้อง เพราะหกล้ม ล้มลุก คลุกคลานมาด้วยกัน ผมไม่ค่อยเก่ง ทำไรไม่ค่อยได้ เค้าจะคอยยื่นมือช่วย ไม่เคยปล่อยมือผมเลย พอม.6 ผมมีแฟนคนแรก เวลามีปัญหา หรือทะเลาะ เค้าจะอยู่เป็นเพื่อนผม มาค้าง ไปหาแฟนผมเป็นเพื่อน ขนาดแฟนผม ยังรักเค้าเลย หยอกล้อ เล่นกันตลอด
ทุกอย่างมันดำเนินด้วยดีมาตลอดคับ ตอนช่วงชีวิตมหาลัย ผมเมา แล้วอ้วกใส่ขาเค้า เค้าหิ้วผมไปนอน ผมยังมีสตินิดหน่อย เห็นเค้าแอบไปซักกางเกง ตอนเช้ามา ไม่ว่าไรผมสักคำ น้ำตาซึมครับ มีครั้งหนึ่งที่ผมไม่สบายแล้วก็อยู่ด้วยกัน เค้าเช็ดตัวผมทั้งคืน จนตื่นเช้ามาไข้ผมลด
สำหรับผมเค้าคือพี่ที่คอยดูแลผมมาตลอด รู้จักกันมาแทบไม่เคยเห็นเค้าเครียด มีบางครั้ง ที่เค้าซึม ๆ เศร้าๆ ผมดีใจมากที่เค้ายอมมาระบายปรับทุกข์กับผม เพราะเค้าเป็นคนชอบเก็บความรู้สึก บางสิ่งบางอย่างผมต้องหลอกถามเอา ใครอยู่กับเค้าต้องรักเค้าครับ เพราะเค้าชอบเทคแคร์คนอื่น นิสัยดี
ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร (สาเหตุการตาย ) ผมอยากให้ทุกคนจำเค้าในแบบนั้นครับ ให้คนอื่นได้เห็นเค้า ในมุมเดียวกันกับที่ผมเห็นครับ” ไปป์ กล่าวทิ้งท้ายกับเว็บไซต์โดดเด่นดอทคอม
—————————————————–
สำหรับ คดีดังกล่าว ขอขยายความดังนี้ จากการตรวจสอบกล้องทีวีวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ พบเห็นพฤติกรรมผู้เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุว่าได้มีการเดินเหมือนเดินจงกรมอยู่หลายรอบ ที่บริเวณลานแขวนระฆังชั้นที่ 3
ระหว่างเดินก็มีการโบกมือคล้ายกับนกที่กำลังโผบิน ที่บริเวณลานนกแร้ง ชั้นที่ 2 ตั้งแต่ช่วงเวลา 03.17 – 04.02 น.ของคืนวันเกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 6 ปาก ได้แก่ แม่ชี พระสงฆ์ คนทำความสะอาดบริเวณลานวัดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ รวมถึงพยานอื่น ๆ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด
เบื้องต้นผลการชันสูตรจากแพทย์ทราบว่าสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตเกิดจากฐานกะโหลกแตก ทำให้สมองฟกช้ำอย่างรุนแรง มีรอยแผลที่บริเวณหน้าผาก 5 ซม.
อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจพิสูจน์ทราบให้ละเอียดครอบคลุมทุกข้อสงสัยอีกครั้ง ทั้งผลจากนิติวิทยาศาสตร์บริเวณจุดที่พบรอยเลือด และตรวจหารอยนิ้วมือบนระฆัง รวมถึงการจำลองถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้น โดยจะเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน อยากให้ญาติไม่ต้องกังวลใจ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง
ขณะที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม เบื้องต้นพบคราบเลือดติดบริเวณระฆังที่แขวนอยู่ และที่กระจายอยู่โดยรอบรวมถึงที่พื้น โดยได้เก็บร่องรอยรายละเอียดต่าง ๆ ไว้เพื่อนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุส่งให้ทางพนักงานสอบสวนต่อไป
ด้านแม่ชี อวฤดี พงศ์ประศาสน์ ผู้ดูแลพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 05.30 น. ตนได้ยินเสียงผู้ชายกรี๊ดร้องอย่างโหยหวน ก่อนที่จะได้ยินเสียงระฆังดังเป็นจังหวะ แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะตนรู้สึกหวาดกลัวก่อนที่ตนจะรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
อ่านข่าวเกี่ยวกับบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 ม.กรุงเทพ ตายปริศนา บริเวณทางขึ้นภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง) คลิ๊กลิ้งค์นี้ [ อ่านต่อได้ที่ » https://dodeden.com/212042.html ]