น้ำมันสกัดธรรมชาติ คือยา และเพื่อนของเรา ความเชื่อนี้เริ่มแพร่กระจายไปสู่กลุ่มคนรักสุขภาพ เป็นความจริงค่ะ จงเชื่ออย่างนั้นต่อไป เพราะมีน้ำมันสกัดอีกหลายชนิดที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ไม่แพ้น้ำมันมะกอกสักนิด
น้ำมันงา
น้ำมันสกัดจากเมล็ดงา มีคุณสมบัติต้านเบาหวาน ป้องกันฟันผุและป้องกันผิวไหม้ มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ชนิดหนึ่งที่มีในน้ำมันงาเท่านั้น คือลิกแนน ตัวควบคุมน้ำตาลในเลือดและลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) หากนำมากลั้วปากประมาณ 10 นาที จะหยุดยั้งการก่อตัวของคราบหินปูนหรือนำมาชโลมผิวกายก็ได้ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดแต่ไม่แนะนำให้ใช้แทนครีมนะคะ กินน้ำมันเมล็ดงาเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ ถ้าทำอาหารต้องใช้ความร้อนปานกลาง หรือไม่ก็เพิ่มรสชาติให้กับผักย่างหรืออาหารเอเชีย
น้ำมันอโวคาโด
น้ำมันจากซูเปอร์ฟรุตตัวนี้ ต้านโรคเกี่ยวกับข้อต่อและบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม มีสรรพคุณคล้ายน้ำมันมะกอก มีกรดไขมันเชิงเดี่ยวสำหรับต้านการอักเสบ ดูแลปกป้องผิว และลดสารอนุมูลอิสระ ถ้ากินเป็นประจำ จะได้ผลเหมือนกินไอบูโรเฟนปริมาณน้อยๆ แต่มีการวิจัยระบุว่า มันใช้ลดอาการปวดข้อต่อได้เมื่อกินคู่น้ำมันถั่วเหลือง แต่ก็มีราคาแพงใช่ย่อย และถ้าจะให้ดีแนะนำว่าให้กินอโวคาโดสด เราจะได้รับไฟเบอร์เป็นของแถม
น้ำมันมะพร้าว
เมื่อนำมาสกัดเย็น จะทำให้ได้น้ำมันที่มีคุณภาพพิเศษ อุดมด้วยวิตามิน E และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย บำรุงผม แนะนำว่าควรทานสด หรือผสมน้ำสลัด จะช่วยบำรุงผมและผิวได้ดีค่ะ
น้ำมันวอลนัท
มีส่วนประกอบคล้ายน้ำมันปลา ฟื้นฟูปฎิกิริยาร่างกายที่ตอบสนองต่อความเครียด มีสรรพคุณคล้ายน้ำมันปลา อุดมด้วยโอเมก้า 3 ชนิด โดยเฉพาะกรดไลโนเลอิก ที่เป็นเหมือนกองกำลังสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังช่วยต้านความเครียดและลดความดันเลือดได้ดี ที่สำคัญยังดีต่อหัวใจซะด้วย แต่น้ำมันชนิดนี้เราไม่ควรนำมาปรุงอาหารโดยใช้ความร้อน เพราะสารอาหารจะถูกทำลาย ต้องปรุงอาหารที่อุณหภูมิปกติ เหยาะน้ำมันวอลนัท 1-2 ช้อนโต๊ะ ลงในพาสต้าหรือสลัด อย่าลืมเก็บเอาไว้ในตู้เย็นเพราะมันเสียง่าย
………………………………………………….
และนี่ก็คือน้ำมันสกัดจากพืชที่กินได้กินดี ดีต่อหัวใจ อารมณ์ ผิวหนัง และส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย รู้อย่างนี้เเล้วก็ไปหาซื้อมากินกันดีกว่าค่ะสาวๆ ^^
เนื้อหาโดย Dodeden.com