เสนอข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพประกอบข่าวจาก ช่อง 2
เจอดราม่าชุดใหญ่ เมื่ออยู่ๆ “บิลลี่ โอแกน” โพสข้อความวิจารณ์ซีรี่ย์คลับฟรายเดย์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย พร้อมบทเลิฟซีน ทางช่อง GMM 25 หรือช่องแกรมมี่
ล่าสุด เว็บไซต์ www.dodeden.com รายงานว่า บิลลี่ได้ไปบันทึกเทปรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” โดยมาไขปัญหาให้หายข้องใจ
เนื่องจากที่โพสต์วิจารณ์รุนแรงแบบนั้น เพื่ออะไร “เหยีดเพศที่ 3” อย่างที่คนเขาดราม่ากันหรือไม่ ชาวโดดเด่น ไปฟังจากปากเจ้าตัวกันดีกว่า
ที่โพสต์ไปแบบนั้นปกติดีไหม หรือ เมา ?
“ปกติดีครับ แต่ที่ไม่ปกติคือเปิดทีวีดูพอดีวันนั้น ไม่รู้อะไรทำให้เปิดดู ก็เลยตกใจ เห้ย! เดียวนี้ทีวีเราก้าวหน้าไปถึงขนาดว่า แค่จูบกันมันก็..นั่นแล้วนะ
สมัยนี้ในละครต่างๆ แต่เดี๋ยวนี้เราพัฒนาไปจูบจริง แถมยังเป็นผู้ชายจูบกับผู้ชายอีก มันจะจริงขนาดไหนกันขนาดนี้”
สมัยคุณเป็นเด็กละครเค้าไม่จูบจริงกันเหรอก ?
“มันมีวิวัฒนาการของมัน สมัยก่อน ถ้ายุคโบราณพอพระเอกจะจูบนางเอกกล้องเขาก็จะเคลื่อนหลบไป แล้วให้ตัวแสดง เอนตัวลงไปทำเหมือนกับว่าล้มตัวลงนอนแล้ว ก็เป็นอันว่าเข้าใจ
แล้วภาพมันก็ตัดไปที่หลังคา มีฝนตก มีเสียงน้ำหล่นบนหลังคา ชัดเจนยิ่งกว่าอะไร ในยุคต่อมาเริ่มจะมีการ พอจูบก็เอาตัวบังแล้วก็ทำเป็นนัวเนีย จริงๆ ไม่ได้โดนกันหรอก
ผู้หญิงก็จะทำเป็นเอามือจิกหลัง ก็เป็นอันเข้าใจ แต่เดี๋ยวนี้มันเกิดอะไรขึ้นครับในสังคมเมืองไทย มันจะต้องถึงขนาดว่าจูบปาก เนี่ยต้องเอาปากมาดูดกันให้เห็น”
คำว่าอุจาดที่คุณใช้ มันดูรุนแรง ?
“อุจาดนี่มันรุนแรงตรงไหนครับ มันเป็นภาพที่มันอุจาดตา คือมันเป็นภาพที่มันไม่เหมาะสมที่จะแพร่ออกมาให้เห็นในที่สาธารณะสมมุติ อ.ยิ่งศักดิ์ จะจูบใคร จะมายืนจูบพันลิ้นให้คนเขาเห็นรึป่าว
คนจะจูบกันบ้านไหนๆ คงไม่มายืนออกมา ให้ชาวบ้านเอาไปพูดกันยืนจูบกันประเจิดประเจ้อ แต่นี่มันออกมาในทีวี ให้มันเห็นไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วมาอ้างว่ามันเป็นศิลปะของการแสดง อันนี้ผมว่าไม่ใช่แน่ๆ”
เค้าก็รู้กันอยู่ละครเรื่องนี้มันเกี่ยวกับการเบี่ยงเบนทางเพศ มีอคติอะไรกับเพศนี้ ?
“อคตินี่ไม่มีเลยนะ ไม่เคยมีเลย ตั้งแต่เด็กมาเนี่ยเพื่อนฝูงในแวดวงทั้งหมดมีทั้งที่เป็นตุ๊ด เป็นเกย์ เป็นแต๋ว เป็นกะเทย มีเยอะไปหมด มีนานาอาชีพ
ตั้งแต่ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ดีไซน์เนอร์ ขายอาหาร บางคนเป็นซลล์ บางคนเป็นแอบก็มี ไม่แสดงออกมีเยอะแยะไปหมดที่เป็นเพื่อนกับผม แต่เพื่อนฝูงที่คบเนี่ย ไม่มีใครเขามาจูบประเจิดประเจ้อเหมือนกัน”
มันก็เป็นเรื่องการแสดง ไปอยู่ไหนมา ?
“ผมคิดว่ายุคนี้มันเละไง มันเละไปหมดเหมือนกับว่าทุกคนคิดว่าเอาอะไรมากองกันก็ได้ โยนอะไรเข้ามาก็ได้ สมมุตินี่โต๊ะอาหารที่นั่งกันอยู่ ใครจะโยนอะไรเข้ามาก็ได้
ไอ้นี่กินยาก เผ็ด แต่ให้มันมารวมกันให้ทุกคนกินเหมือนกันหมด ผมว่ามันไม่ถูกต้อง จะกินอาหารพิเศษ ก็ต้องแยกโต๊ะ จัดโต๊ะพิเศษหน่อย”
โลกนี้มีคำว่าเสรีภาพ ?
“ผมว่ามันเลอะเทอะมาก หากจะมาเถียงกับผมว่าเสรีภาพและประชาธิปไตย เสรีภาพ ย่อมต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบเสมอ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญ และเสรีภาพต้องมีขอบเขตของมันที่เมาะสม ที่ควรถ้าไม่เช่นนั้นแล้วมันไม่ใช่เสรีภาพครับ มันเป็นความไร้อารยะ”
ทีวีมีหลายช่อง ไม่ชอบก็ไปดูช่องอื่น ดราม่าทำไม ?
“ผมมีความคิดเห็นว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันเป็นภัยสำหรับเยาวชนมากจนเกินไป ถ้าสมมุติทำละครฉายให้คนที่บรรลุนิติภาวะแล้ว อายุ 18 ขึ้นไป อยากจะดูโป้เปลือยขนาดไหนมันเป็นวิจารณญาณของแต่ละคน
แต่สมมุติว่าลูกคุณ หลานคุณ อายุ 5 ขวบ 6 ขวบ เป็นเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตามนั่งดูอยู่ แล้วเห็นฉากที่ผู้ชายโผเข้าหากัน เอาปากต่อปากมาจูบกัน
ในขณะที่เด็กคนนั้นได้รับการสั่งสอนมากจากคุณพ่อคุณแม่ว่าครอบครัวเรามีคุณพ่อ คุณแม่ เกิดลูกขึ้นมาแบบนี้ แล้วถ้าเด็กมันหันมาถามว่า พ่อครับทำไมผู้ชายกับผู้ชายเขาถึงจูบกันละครับ คุณพ่อจะตอบลูกว่าอย่างไรครับ”