พี่บุ๋มขา พี่บุ๋มทำตากับจมูกที่ไหนมาคะ?
คำถามนี้บุ๋มเจอบ่อยมากค่ะ ตั้งแต่ตอนได้นางสาวไทยใหม่ๆ แรกๆ รู้สึกแปลกใจและรู้สึกแย่ เพราะทั้งหน้าทั้งเนื้อทั้งตัวก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่ให้มาตั้งแต่เกิด แถมบางคนถามไม่ถามเปล่า กลับเอามือมาบิดจมูกบุ๋มพร้อมถามว่าทำมาจากที่ไหน? (แหมเจ๊! ถ้าอิชั้นทำมาจริง ป่านนี้ดั้งคงหักคาแทงมือเจ๊ไปนานแล้ว บิดซะแรงขนาดนั้น) หึ! ดีนะเป็นคนของประชาชน เลยต้องทำหน้ายิ้มแล้วตอบกลับไปด้วยเสียงสวยๆ ว่า “ไม่ได้ทำค่ะ! ของแท้ค่ะ!”
พอมาถึงทุกวันนี้เริ่มชินกับคำถามว่าไปทำตากับจมูกมาจากที่ไหน ซึ่งปัจจุบันมักจะตอบกลับไปว่า “ของแท้พ่อแม่ให้มาค่ะ สมัยที่ได้ตำแหน่งตอนนู้นนน…(ลากเสียงยาวๆ) หมอศัลยกรรมยังเรียนไม่จบค่ะ! ที่ผ่านมาก็ทำแต่นม” ตอบไปแบบนี้ก็เป็นประเด็นอีก เพราะนักข่าวก็ถามต่อว่า ทำไมถึงกล้าตอบความจริงว่าทำศัลยกรรมมา?
บุ๋มก็มักตอบกลับไปว่า “แล้วจะให้บอกว่าแม่เพิ่งให้มาตอน 30 หรือยังไง?” เข้าวงการมาตั้งแต่ 24 ตอนประกวดนมมันก็พอจะมี แต่พอมีลูกแล้วให้นมลูก 7 เดือนเต็ม ทรงหน้าอกมันก็เลยเปลี่ยน เปลี่ยนจนรับไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจไปทำเพื่อให้มันกลับมาเหมือนเดิม
แล้วทำไมดารานักร้องศิลปินอีกหลายต่อหลายคนที่ผ่านการศัลยกรรมมา แต่กลับบอกว่า “ไม่ได้ทำอะไร!” ไม่เคยทำอะไรกับหน้าเลย แค่ผอมลง แค่จัดฟัน เปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนการแต่งหน้า แค่ทาปากแดง ใส่คอนแทคเลนส์ ติดขนตาปลอม ต่อมน้ำลายอักเสบ สารพัดคำตอบที่สร้างสรรค์ แม้แต่คนฟังก็งงว่ามันมีโรคแบบนี้ด้วยหรือ?
ทำไมคนดังเหล่านี้ถึงไม่กล้ายอมรับความจริงว่าตัวเองผ่านมีดหมอ ผ่านมือหมอฉีดหลายเข็ม ผ่านการทำหนังหน้า จนแทบไม่เหลือโครงเค้าเดิม ทำไมพวกเขาถึงไม่กล้ายืดอกยอมรับกันมาตรงๆ ทำไมต้องรอให้มีภาพ before and after มาเปรียบเทียบในพันทิป ในรายการทีวีให้หน้าแตกยับ ให้คุณผู้ชมและประชาชนที่ดูทั้งบ้านมักจะคิดรวมๆ กันไปว่า “ดาราเป็นคนตอแหล” หน้าเปลี่ยนไปตั้งขนาดนี้แต่ปากบอกว่าไม่เคยทำอะไร เห็นกูกินหญ้าหรือยังไง?
ยังไม่พอดาราศิลปินบางท่านถึงขนาดที่ว่าเปลี่ยนหน้า เปลี่ยนจมูกมันทุกหน้าปกอัลบั้ม เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะปกเทปกันเลยทีเดียว ถ้าเป็นแฟนคลับกันจริงต้องหาเก็บกันให้ได้ทุกปกเพราะถ้ารออัลบั้มต่อไปหน้าจะไม่เหมือนเดิม แต่คนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าเอาเถอะถ้าทำแล้วดูดีขึ้น ทำแล้วสบายใจก็ทำกันไป จนปัจจุบันเรื่องของการศัลยกรรมและการทำหน้าผ่าตัดทำหน้าอกเริ่มกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในสังคมปัจจุบัน ถ้ามันไม่ได้สร้างความเดือดร้อน ไม่ต้องไปขอยืมเงินจากใคร ไม่ได้ทำแล้วน่าเกลียดจนเกินไป ทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะ
แต่ทำไมคนในวงการบันเทิงส่วนมากถึงยังไม่กล้ายอมรับเรื่องของการศัลยกรรม
บุ๋มคิดว่าคนในวงการอาจจะมองว่า คำว่า ศัลยกรรม คงต้องถึงขนาดผ่าตัดกรีดตาเสริมจมูกตัดกรามทำหน้าอกหรืออะไรก็ได้ที่ต้องใช้มีดผ่าหนังเนื้อมันเข้าไป แต่ถ้าแค่โบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ เลเซอร์หน้า ร้อยไหม ถ้าทำแค่นี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการทำศัลยกรรม
แต่ความเป็นจริงแล้ว อะไรก็ตามต่อให้เป็นเข็มเล็กๆ ที่มีการทิ่มแทงเข้าไปข้างใน แม้กระทั่งการดัดฟันก็ถือว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการศัลยกรรมนะคะ แต่ดาราหลายๆ คนก็คงรู้สึกว่า ถ้าตอบความจริงไปว่าตัวเองไปทำศัลยกรรมมา คนจะมานั่งจับจ้องหน้าตามากกว่าความสามารถตัวเอง โดยเฉพาะดาราศิลปินชายถ้าบอกว่าไปทำศัลยกรรมมา คนคงมองว่าเป็นตุ๊ดอย่างแน่นอน ทั้งที่ตัวเองก็แค่อยากให้ดูดีขึ้นกล้องเพราะการแข่งขันมันสูง และที่บางคนไม่ยอมรับความจริงก็อาจจะมองว่า มันเป็นเรื่องส่วนตัว!
หรือบางคนก็แค่โกหกจนเคยตัว! โดนนักข่าวถามเรื่องที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงาน ก็ติดโกหกออกไปก่อน ตอบเลี่ยงไปเรื่อยๆ โดยไม่มองว่าประชาชนเค้าจะรู้สึกอย่างไรกับความไม่จริงใจของดาราคนนั้น
แต่ก็อย่างว่าแหละพอยอมรับความจริงว่าไปทำศัลยกรรมมา คนก็มักจะพูดต่อว่าของเดิมของธรรมชาติพ่อแม่ให้มานั้นก็ดีอยู่แล้วไปทำทำไม? ก็เป็นประเด็นอีก แถมบางคนโดนเรียกว่ายัยหนังหน้าพลาสติก ทั้งๆ ที่ทำแค่จมูก สู้ไม่ยอมรับไปเลยดีกว่า แถไปเรื่อยๆ สบายใจกว่าเยอะ
บุ๋มว่าดาราสมัยนี้โชคดีกว่าสมัยก่อนมากนะคะ เพราะแต่ก่อนเทคนิคการทำศัลยกรรมก็ไม่ดี ไม่ดูเป็นธรรมชาติเหมือนสมัยนี้ แถมประชาชนคนดูยุคปัจจุบันก็ยอมรับเรื่องการทำศัลยกรรมได้มากกว่าแต่ก่อนเยอะ ดาราที่เข้าวงการมานานแล้วค่อยๆ ทำหน้าทำตาเติมนู่นแต่งนี่จนสวยเป็นซุป’ตาร์ก็มีหลายคน ก็ถือว่าเค้าดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี ไม่รีบทำเยอะจนคนตกใจ พอเวลาผ่านไปแล้วกลับไปดูรูปสมัยก่อน ถึงได้ตกใจว่า “นางมาไกลได้ขนาดนี้เชียวหรือ?”
ส่วนดารา นางงามและเด็กรุ่นใหม่หลายๆ คนก็ทำหน้าทำตาจนพร้อมสรรพตั้งแต่ก่อนเข้าวงการด้วยซ้ำ ดังนั้นบุ๋มคิดว่าสมัยนี้ใครทำอะไรก็ทำเถอะ แต่ไม่จำเป็นต้องโกหกประชาชนอีกต่อไปเพราะเค้าไม่โง่! เค้าดูออกและกินข้าว ทำก็บอกว่าทำ ทำแล้วดูดีก็ทำได้ แต่ทำแล้วต้องรู้จักหยุด รู้จักพอ นั่นก็น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดของการเป็นคนของประชาชนนะคะ เค้าจะได้ไม่หาว่าดาราชอบโกหกตอแหล! ฟังแล้วมันเจ็บค่ะ!