จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งยกเลิกการเฝ้าระวังคลื่นยักษ์สึนามิ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี ของประเทศชิลี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนผู้เสียชีวิตล่าสุด ยังอยู่ที่ 3 ราย บาดเจ็บอีก 20 คน
แม้จะผ่านเวลา 1 นาฬิกาของวันใหม่ตามเวลาท้องถิ่นประเทศชิลี แต่ประชาชนจำนวนมาก ยังคงอาศัยท้องถนนเป็นที่หลับนอนชั่วคราว หลังเกิดเหตุสึนามิขนาด 8.3 แม็คนิจูด เมื่อราว 4 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีอ๊าฟเตอร์ช็อก ที่มีความรุนแรงตั้งแต่ 4.9 แม็กนิจูด ขึ้นไป เกิดขึ้นอย่างน้อย 12 ครั้ง สร้างความหวาดกลัว จนแทบไม่มีใครกลับเข้าไปอยู่ในบ้าน
ขณะที่ศูนย์เฝ้าระวังสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก ยังไม่ยกเลิกคำเตือนคลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งคำเตือนนี้ครอบคลุมตั้งแต่ชายฝั่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ไปจนถึงฝั่งตะวันออกของประเทศนิวซีแลนด์ ที่อยู่ไกลจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวถึง 9,600 กิโลเมตร ซึ่งแม้จะยังไม่เกิดคลื่นสึนามิขึ้น แต่ก็มีรายงานว่า มีคลื่นสูงกว่า 4 เมตรครึ่ง ซัดเข้าชายฝั่งเมือง”โกคิมโบ”(Coquimbo) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซานติอาโก้ ไปทางเหนือราว 280 กิโลเมตร
ในส่วนของความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน แต่มีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน เป็นหญิงชวัย 35 ปีที่ถูกหลังคาบ้านถล่มทับ รายที่สองเป็นหญิงอายุ 20 ปี ถูกหินถล่มทับ และรายสุดท้ายเป็นชายวัย 83 ปี เสียชีวิตเพราะหัวใจวาย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 20 คน
สำหรับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ห่างจากชายฝั่งไปทางตะวันตกของเมือง”อิลลาเปล”(Illapel) 54 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้พื้นมหาสมุทรเพียง 33 กิโลเมตร จึงเชื่อว่าความเสียหายน่าจะรุนแรงมาก เมื่อเริ่มการสำรวจในตอนเช้า