ที่มา: surgery.or.th

ปัญหาถุงใต้ตากวนใจ กับเทรนด์ล่ามาแรงแฝงประโยชน์!!! ที่เดี๋ยวนี้ การศัลยกรรมถุงใต้ตา มันไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาด้วยการผ่าตัดดึงไขมันออก แต่สามารถใช้สร้างมูลค่า รักษาภาวะเสื่อมสภาพของร่องลึกที่หัวตาไม่ให้เสียหายก่อนวัยอันควร

 

ปัญหาถุงใต้ตากวนใจ
ภาพจาก : kintakun-collection

 

ปัจจุบันนี้ แนวโน้มการผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาเริ่มเปลี่ยนไป จากสมัยก่อนที่จะผ่าตัดเอาถุงไขมันออกเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อติดตามผลการรักษา หมอบางคนพบว่าคนไข้เกิดปัญหาร่องตาลึกขึ้นจนมองเห็นได้ชัด เพราะการนําถุงไขมันใต้ตาออก ไม่ว่าจากด้านนอก หรือออกจากด้านใน แล้วใช้พลังงานเลเซอร์รักษาควบคู่เพื่อให้ผิวกระชับขึ้นนั้น ได้ผลเพียงแค่ชั่วคราว ร่องตาดังกล่าวก็ยังแก้ไม่หาย เป็นที่มาของวิธีการรักษาแนวใหม่ ที่ใช้การผ่าตัดเก็บถุงไขมันใต้ตาไว้มาถมลงใน “ร่อง” แทนการเอาออก ระยะแรกๆ ของการรักษานี้ ไม่เป็นที่ยอมรับกันนักในหมู่ศัลยแพทย์ กระทั่งเห็นผลที่สร้างความพึงพอใจให้กับคนไข้เป็นอย่างมาก

 

ปัญหาถุงใต้ตากวนใจ รักษาด้วยวิธีไหนถึงจะดี ?

ก่อนอื่น เราต้องรู้สาเหตุของปัญหาถุงใต้ตากันก่อนค่ะ ในทางการแพทย์ ต้องแยกให้ชัดว่าปัญหาถุงใต้ตาดังกล่าว เกิดจากไขมัน หรือกล้ามเนื้อ ซึ่งถุงไขมันจริงๆ ก็คือ ถุงไขมันที่อยู่ในเบ้าตาคนเรา มีด้วยกัน 5 ถุง อยู่เหนือเปลือกตาบน 2 ถุง และใต้เปลือกตาล่าง 3 ถุง ถุงใต้ตาล่างที่เคลื่อนออกมาและมีปัญหาบ่อยๆ จะมีอยู่ 2 ถุง คือ ถุงกลาง (Middle Fat) และบางส่วนของถุงไขมันด้านใน (Inner Fat)

 

ปัญหาถุงใต้ตากวนใจ
ภาพจาก : oceandriveplasticsurgery.com

 

ซึ่งปัญหาถุงใต้ตา เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น จากกรรมพันธุ์ และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายทํางานผิดปกติ ทําให้ไขมันและของเหลวไหลมารวมกันบริเวณผิวหนังใต้ตามากเกินไป จนเกิดการป่องนูน ปกติถุงไขมันนี้ จะถูกกั้นไว้ด้วยกล้ามเนื้อเปลือกตาที่แข็งแรง ส่วนสาเหตุที่พบบ่อย และไม่ใช่เพราะกรรมพันธุ์ ก็คือ ความเสื่อมของผิวหนังตามกาลเวลา อันเนื่องมาจากเนื้อเยื่อที่รองรับถุงไขมันอยู่ เกิดหย่อนยานลงตามกาลเวลาในวัยที่เพิ่มขึ้น

วิเคราะห์ปัญหาร่องตาลึก
ร่องตาที่เห็นเป็นแนวริ้วยาว มาจากหัวตาลงมาถึงแนวใต้ตานี้ เกิดได้หลายลักษณะ ในความเชื่อที่ว่า

  • เกิดจากกระดูกเป็นร่อง ซึ่งเป็นร่องที่เกิดขึ้นในตัวกระดูกเอง
  • เกิดจากผิวหนัง และไขมันใต้ชั้นกล้ามเนื้อตาที่บางลง ทําให้ร่องนี้เด่นชัดขึ้น
  • เกิดจากการแยกตัวโดยธรรมชาติของกล้ามเนื้อรอบดวงตา ส่วนที่ปกคลุมไขมัน และส่วนที่คลุมกระดูกรอบตา

 

ปัญหาถุงใต้ตากวนใจ
ภาพจาก : mirror.co

 

การแก้ปัญหา “ผิวใต้ตาล่าง”
นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ต้องคํานึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งการผ่าตัดทําเพื่อแก้ปัญหาถุงไขมันใต้ตา ร่องลึก และเก็บผิวหนังส่วนเกินออก ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง แลดูไม่เหนื่อยล้า เหมาะสําหรับผู้ที่มีถุงไขมันได้ตามากผิดปกติ รวมทั้งผิวใต้ตาหย่อนคล้อย ทั้งนี้ ผลของการผ่าตัดไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยตีนกาที่เกิดขึ้นแล้วได้ สมัยก่อน การแก้ปัญหาด้วยการดึงไขมันใต้ตาออก ช่วยทําให้สภาพผิวดูดีขึ้นได้นั้น เนื่องมาจาก “ร่อง” ที่มีอยู่เดิม ถูกถุงไขมันมากองสะสม ทําให้ร่องยิ่งดูลึกขึ้น เมื่อนําถุงไขมันออก จึงดูเหมือนร่องตื้นขึ้นนั้นเอง

ขั้นตอนการรักษา
ตามปกติ แพทย์จะซักประวัติคนไข้ เพื่อดูว่ามีข้อห้ามต่างๆ ในการผ่าตัดหรือไม่ แล้วพิจารณาปัญหาสําหรับวาง แผนการผ่าตัดรักษาต่อไป โดยการผ่าตัดจะใช้วิธีวางยาสลบ ก่อนที่จะเริ่มลงมือเปิดแผลที่บริเวณเปลือกตาล่าง ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ

 

ปัญหาถุงใต้ตากวนใจ
ภาพจาก : Ric Caesar
  • วิธีรักษาเดิม
    เปิดแผลที่ด้านในเปลือกตาล่าง บริเวณเยื่อบุตา จะด้วยมีดผ่าตัด หรือใช้เลเซอร์ช่วยก็ได้ ซึ่งการกรีดแผลจากด้านใน ช่วยให้มองไม่เห็นรอยแผล วิธีนี้จะเป็นการเอาถุงไขมันใต้ตาออกเพียงอย่างเดียว

 

ปัญหาถุงใต้ตากวนใจ
ภาพจาก : thai.hongjinjoo.com
  • วิธีใหม่ “การถมไขมัน”
    จะเปิดแผลเข้าไปชิดกับขอบตาตามแนวขนตาล่างให้มากที่สุด จากนั้น จะเห็นไขมันเรียงตัวกันอยู่ตามแนวนอน 3 ถุง (มักจะเป็นถุงที่ 2 และถุงที่ 3 ที่มีปัญหา) จากนั้น ทําการเลาะถุงไขมันที่เป็นปัญหา แล้วดันขยับไขมันลงไปให้อยู่ในร่องลึกข้างตา โดยต้องจัดวางให้ถูกที่แล้วยึดไขมันให้ถูกตําแหน่ง (วิธีนี้ ไขมันจะไม่ตาย เพราะยังอยู่ในพื้นที่เดิม ซึ่งหากดูดไขมันจากส่วนอื่นออกมาถมใส่แทน ไขมันนั้นอาจตายลงได้) จากนั้นจะทําการยึดกล้ามเนื้อให้ตึง โดยจึงไว้กับขอบหางตาด้านข้าง เพื่อต้องการไม่ให้ตาปลิ้น ตาแหก (การดึงกล้ามเนื้อขึ้นมา เพื่อให้ความตึงของผิวหนังอยู่ที่กล้ามเนื้อเป็นตัวรองรับ) ทั้งนี้ เมื่อขยับไขมันออกจากพื้นที่เดิมแล้ว ผิวหนังบริเวณนั้นจะหย่อน เกิดเป็นส่วนเกิน ศัลยแพทย์ต้องตัดเก็บหนังส่วนเกินนี้ออกด้วย แล้วจึงเย็บปิดแผลให้เนียนสนิท อาจเห็นเป็นรอยแผลเล็กๆ ให้เห็นซ่อนอยู่บริเวณหางตา (ถ้าไม่สังเกตจะมองไม่เห็น) ใช้เวลา ประมาณ 1  ชั่วโมง

การดูแลรักษา

  • หลังผ่าตัด ผิวหนังใต้ตาจะบวมมากในช่วง 3 วันแรก แล้วจะค่อยยุบลงเรื่อยๆ (มักจะดีขึ้นหลังผ่าน 10 วันแรก ไปแล้ว)
  • อาจเกิดอาการปวดรอบตาบ้างเล็กน้อย แต่หากเป็นมาก ควรรีบปรึกษาศัลยแพทย์ที่ทําโดยด่วน
  • อาการจ้ำเลือด อาจเกิดขึ้นได้รอบดวงตา และจะจางหายไปเองภายใน 2 สัปดาห์

••••••••••••••••••

และถ้าหากแผลมีเลือดออก ติดเชื้อ เกิดรอยแผลเป็น หรือเปลือกตาล่างตึงเล็กน้อย ไม่ต้องตกใจ เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ชั่วคราวหลังการผ่าตัด แต่ถ้ามีอาการดึงรั้งที่ขอบตาล่างมาก ให้รีบปรึกษาศัลยแพทย์ที่ทําทันทีค่ะ

 

เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com

 

เรื่องน่าสนใจ