ปัญหาผิวหน้า ที่หนุ่มๆสาวๆอยากหนีให้ไกล
สิว มักเกิดขึ้นได้บ่อยใน ผู้ที่มีผิวมัน แต่ไม่แน่นอนเสมอไป สิว สามารถเกิดขึ้นได้กับ ผิวทุกประเภทสิวบนใบหน้ามีหลายรูปแบบทั้ง สิวอักเสบ สิวเสี้ยน สิวผด และสิวอุดตัน
สาเหตุการเกิดสิว
เกิดจากการอุดตันของน้ำมันในรูขุมขน ซึ่งมีสาเหตุจากการกระตุ้นของฮอร์โมนเพศ จึงมักพบมากในช่วงวัยรุ่น และ ในผู้ที่มีผิวมัน แต่ความจริงแล้วสิวเกิดกันได้ทุกวัย การแพ้สารเคมีบางชนิดในเครื่องสำอาง น้ำมัน และยาบางชนิด สามารถรบกวนการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้เกิดการอุดตันเป็นสิวได้
นอกจากสิวแล้ว ยังมีปัญหาที่ตามมาหลังจากที่เกิดสิวแล้วยังคงทิ้งร่องรอยที่หลงเหลือ ให้เห็นเป็นรอยแดง รอยดำ หน้าไม่เรียบ หน้าเป็นหลุมให้เห็นอีกด้วย
การป้องกันและรักษาสิวเบื้องต้น
- อย่าแกะเกาหรือใช้มือสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ เพราะมือที่สกปรกอาจมีเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดการเกิดสิว
- อย่ารบกวนผิวหน้าบ่อยเกินไป เช่น การขัดหน้า การ ล้างหน้าบ่อยๆ
- ล้างหน้าให้สะอาด
- ใช้เลเซอร์ในการรักษาสิว และรอยที่เกิดจากสิวได้
- หากมีปัญหาขั้นรุนแรง หรือเป็นต่อเนื่องนานเกินไป ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษา
ฝ้า มักขึ้นบริเวณใบหน้า มีลักษณะสีน้ำตาลอมดำ อาจมีขนาดแตกต่างกัน บริเวณที่มักเกิดฝ้ามากที่สุด คือ โหนกแก้ม สันจมูก และอาจเกิดที่หน้าฝาก โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
- ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) มักมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัด เกิดได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้เร็ว นอกจากนี้ฝ้าชนิดนี้ยังรักษาโดยการใช้ยาทาฝ้าอ่อนๆ และ ครีมกันแดด ก็สามารถลบเลือนให้หายได้
- ฝ้าแบบลึก จะมีอาการผิดปกติ อยู่ในชั้นที่ลึกกว่าชนิดแรก โดยจะเกิดฝ้าใน ระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า จะเกิดความผิดปกติในระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีม่วงๆ อมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด รักษาได้ยากกว่าฝ้าชนิดตื้น และไม่ค่อยหายขาด การใช้ยาทาฝ้าอ่อนๆ และ ครีมกันแดด เพียงแต่ช่วยให้ดีขึ้นเท่านั้น
สาเหตุของการเกิดฝ้า
ฝ้าเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน มีผลทำให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีในชั้นผิวหนัง ปัจจัยเหล่านี้อาจได้แก่ แสงแดด ฮอโมนที่สร้างเม็ดสีผิดปกติ แพ้เครื่องสำอาง และ พันธุกรรม
การป้องกันและรักษาฝ้า
- ควร หลีกเลี่ยงจากแสงแดด ความร้อน โดยใช้สิ่งกำบังหรือป้องกัน เช่น ร่ม หมวก ผ้า คลุมหน้า เป็นต้น
- ไม่ ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์
- ควร ทดสอบเครื่องสำอางก่อนใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เกิดอาการแพ้
- ปรึษาแพทย์ผิวหนังโดยตรงในการรักษา และ ก่อนใช้ยารักษาฝ้าควรปรึกษาเภสัชกรก่อนทุกครั้ง
กระ คือ จุดสีน้ำตาลกลมๆ ไม่มีรอยนูนเกิดขึ้นบนผิวหนัง เป็นจุดเล็กๆ จะเกิดขึ้นบริเวณต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเกิดจากการสัมผัสกับแสงอาทิตย์เป็นระยะเวลานานๆ เกิดในบริเวณที่ผิวหนังบาง เช่น ส่วนบนของร่างกาย คาง จมูก แขน และไหล่ช่วงบน กระสามารถเกิดได้ตั้งแต่เด็กเล็กๆเลยทีเดียว
ประเภทของกระ
- กระตื้น ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ ขนาดไม่เกิน 0.5 ซม. มักจะขึ้นบริเวณใบหน้า
- กระลึก กระประเภทนี้จะเป็นลักษณะคล้ายๆเงาลึก คือเป็นจุดสีน้ำตาลเทาๆ ส่วนใหญ่แล้วจะพบบริเวณโหนกแก้ม
- กระเนื้อ ลักษณะของกระชนิดนี้คือจะเป็นตุ่มสีน้ำตาลหรือดำ อาจเป็นแบบผิวเรียบหรือขรุขระเหมือนก้อนเนื้อเล็กๆก็ได้ พบบริเวณใบหน้าหน้า คอ และลำตัว วิธีเดียวที่จะรักษาได้ก็คือ ยิงเลเซอร์ เนื่องจากรักษาได้ยาก
- กระแดด ลักษณะจะเป็นดวงสีน้ำตาล ผิวเรียบ พบในผู้สูงอายุหรือคนที่ทำงานกลางแจ้ง สามารถใช้ยารักษาให้สีของกระจางลงได้
วิธีป้องกันและรักษากระ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและป้องกันแสงแดดให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมกันแดด ป้องกันแสงแดดโดยหมวกหรือร่ม ก็เป็นการป้องกันเบื้องต้นได้ดีทีเดียว
- ทาครีมรักษากระ หรือ สมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยในการรักษาและให้กระลบเลือนลง
- เลเซอร์ ควรปรึกษาผู้เชียวชาญก่อนทุกครั้ง
- พบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธี
ข่าวดี!!!ถ้าคุณ อยากหน้าใส แบบฟรีๆ!!! วันนี้ โดดเด่น ร่วมกับ 6 คลินิกความงามชื่อดัง มีกิจกรรมดีๆมาฝาก “โดดเด่นเป็นป๋า พาหน้าใส!” ติดตามรายละเอียดได้ที่ http://goo.gl/CBDHx
เรียบเรียงโดย โดดเด่น เวปศัลยกรรมคุณภาพ อันดับ 1