เมื่อวันที่ 7 ส.ค. พ.ต.อ.สมชาย นพศรี ผกก.สภ.เกาะพะงัน เปิดเผยความคืบหน้าของคดีข่มขืนเด็กหญิงที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ว่า จากการลงพื้นที่ของตำรวจชุดสืบสวนเพื่อติดตามตัว นายเคน ผู้ต้องหาอีกคนที่ร่วมก่อเหตุข่มขืน ด.ญ.เอ อายุ 13 ปี ได้รับแจ้งมาว่า นายเคน ได้หลบหนีออกจากเกาะพะงันไปแล้วตั้งแต่หลังก่อเหตุ
โดยคาดว่าจะหลบไปอยู่ในพื้นที่ของบ้านพ่อแม่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวน ได้รู้ชื่อและนามสกุลของนายเคนแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ซึ่งจะได้ไปขออนุมัติศาลจังหวัดเกาะสมุย ออกหมายจับนายเคน ผู้ต้องหาอีกคน
ขณะที่ พ.ต.อ.สมชาย นพศรี ผกก. พร้อมพนักงานสอบสวน พาเด็กหญิงบี พยาน ที่เป็นเพื่อนเด็กหญิงเอ ผู้เสียหาย ไปสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ โดยเด็กหญิงบี บอกว่า ปกติเกือบทุกวัน ตนเองและเด็กหญิงบี พร้อมกับเพื่อนๆอีกหลายคน จะไปนั่งเล่นอยู่ที่บนหัวสะพานท่าเทียบเรือประมงบ้านโฉลกหลำ เกาะพะงัน ซึ่งในวันเกิดเหตุได้เห็น ด.ญ.บี ถูกนายปริญญา และนานเคน ดึงแขนขึ้นรถกระบะไป โดยที่ไม่ทราบว่าไปที่ไหนกัน แต่ยืนยันว่าไปกับ 2 คนนี้จริง
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุด ได้พาเด็กหญิงบี ไปชี้จุดเกิดเหตุ จุดแรกที่ท่าเทียบเรือประมงบ้านโฉลกหลำ ทีผู้ต้องหามาพบเด็กหญิงเอ และพาขึ้นรถกระบะออกไปที่ศาลาชมวิวอ่าวหินงามที่เด็กหญิงเอถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขี้นเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาเด็กหญิงเอ ไปชี้จุดที่ผู้ต้องหาโทรมาหลอกให้เด็กหญิงเอไปพบบริเวณริมถนน ก่อนที่ผู้ต้องหาจะให้เด็กหญิงเอขึ้นรถกระบะและพาไปที่บังกะโลแห่งหนึ่งบนเกาะพะงัน และถูกนายปริญญาล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนนายเคนเป็นคนช่วยจับตัวไว้ไม่ให้ขัดขืน
รายงานข่าวระบุว่า สำหรับพฤติการณ์ของนายปริญญา คลิ้งเคล้า อายุ 25 ปี ผู้ต้องหา ได้ข่มขืนกระทำชำเราด.ญ.เอ ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 1 ครั้ง และวันที่ 30 กรกฎาคม อีก 1 ครั้ง โดยมีนายเคน ผู้ต้องหาอีกคนได้ร่วมจับ ด.ญ.เอ ไว้ไม่ให้ขัดขืน โดยก่อนหน้านี้นายปริญญา คลิ้งเคล้า อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ได้มามอบตัวกับพน้กงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการขอประกันตัวในชั้นสอบสวน และนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย
