เนปาลเป็นประเทศที่มีศาสนสถาน และภูเขาที่สวยงาม แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจึงกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเป็น อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของเนปาล และนำรายได้มาจากต่างประเทศมากที่สุด คนงานทั่วไปมีรายได้เฉลี่ยน้อยกว่า 750 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี
ตามตัวเลขของธนาคารโลก การท่องเที่ยว จึงถูกมองว่าเป็นกลไกที่สำคัญต่อการสร้างโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจให้กับ ประชาชน โดยในปี 2013 หรือ 2556 ธุรกิจการเดินทางและท่องเที่ยว สร้างงานมากกว่า 1,000,000 ตำแหน่ง
จากการประมาณการณ์ที่เนปาลมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 300,000 คน ส่วนใหญ่ชอบการเดินป่า และปีนเขา บนเทือกเขาหิมาลัย ที่เนปาลมีภูเขาสูงที่สุดในโลก 8 ใน 10 แห่ง เฉพาะยอดเขาเอเวอเรสต์เพียงแห่งเดียว สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 35,000 คนต่อปี แต่ในเวลาเดียวกัน เป็นจุดที่มีความเสี่ยงมากเช่นกัน ซึ่งจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ สื่อต่างชาติมีการรายงานว่ามีทั้งผู้ทีเสียชีวิต สูญหาย และติดอยู่ในบริเวณนั้น
โดยมีสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ เช่น จัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูร์บาร์ ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทที่เก่าแก่ แสดงภาพความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล และจัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโกในปี 2522 ซึ่งเกิดความเสียหาย
นอกจากนี้ ความรุนแรงของแผ่นดินไหวยังทำให้จัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ ซึ่งเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่ง เสียหายเช่นกัน รวมถึงหอคอยดาราห์รา หรือธาราฮารา ทาวเวอร์ ในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งสร้างในปี พ.ศ. 2375
