นายโกวิท สัจจวิเศษ โฆษกสำนักงานประกันสังคมหรือ สปส. เปิดเผยว่า ทางปลัดกระทรวงแรงงานได้ตีกลับ ร่างพระราชกฤษฎีกาหรือ พ.ร.ฎ.มาตรา 40 เพื่อขยายเวลารับสมัครผู้ประกันตนที่มีอายุเกินกว่า 60 ปี ให้ สปส.ไปทบทวนเนื้อหาใหม่
หลังมีหนังสือท้วงติงว่า มาตรา 40 ยังมีช่องโหว่หลายเรื่อง เช่น การให้ผู้ที่มีสิทธิประโยชน์ได้รับเงินบำนาญจากกองทุนอื่นๆ สามารถสมัครได้ การเปิดให้ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบย้อนหลัง และไม่กำหนดระยะการเป็นผู้ประกันตน สปส.จึงตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาแก้ไขก่อนเสนอต่อปลัดกระทรวงแรงงานอีกครั้งภายในเดือนนี้
ส่วนกรณีที่มีผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 สิทธิประโยชน์เฉพาะกรณีชราภาพ ซึ่งผู้ประกันตนจ่ายคนละ 100 บาท รัฐบาลสมทบคนละ 100 บาทต่อเดือน ซึ่งมีอายุเกิน 60 ปีมายื่นลาออกเพื่อรับเงินสมทบนั้น
ขณะนี้ สปส.ได้ให้ สปส.ทั่วประเทศจ่ายเงินเฉพาะส่วนที่ผู้ประกันตนสมทบเดือนละ 100 บาทเท่านั้น ส่วนที่รัฐจ่ายสมทบเดือนละ 100 บาทนั้นยังไม่มีการจ่าย เนื่องจากรอการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า กรณีนี้ผิดเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ และการจ่ายเงินสมทบในส่วนของรัฐจะต้องออกกฎหมายลูกเพื่อจัดทำเงื่อนไขรองรับหรือไม่
โดยจากข้อมูลของ สปส.พบขณะนี้มีผู้ประกันตนมาตรา 40 ทุกทางเลือกทั่วประเทศ 2,471,116 คน ในจำนวนนี้มีผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 สิทธิประโยชน์เฉพาะกรณีชราภาพ 359,000 คน
ทั้งนี้ จากการคำนวณในทางเลือกที่ 3 ที่มีผู้ประกันตนประมาณ 300,000 คน ส่งผลให้รัฐต้องจ่ายเงินสมทบประมาณเดือนละ 900 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อกองทุน และตั้งแต่หลังปีใหม่เริ่มมีผู้ประกันตนทยอยมาลาออกอย่างต่อเนื่องเพื่อหวังเงินก้อน
ขณะที่ผู้ประกันตนมาตรา 40 บางคนระบุว่า เจตนารมณ์ของประกันสังคมเป็นเรื่องดีที่ต้องการให้คนออมเงิน แต่ก็ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจชัดเจน และอย่าเอาเรื่องเงินก้อนที่รัฐจ่ายสมทบอีกเท่าตัวมาล่อให้คนสมัคร
เพราะมีคนบางกลุ่มที่ตั้งใจจะไปสมัครเพื่อรอถอนเงินออกมาใช้ ทราบว่าตอนนี้มีคนเริ่มไปถอนกันบ้างแล้ว แต่ประกันสังคมก็ยังเงียบ ทั้งที่บอกจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบก่อนจะเปิดรับสมัครอีกรอบ
