ปัจจุบันการจะรอให้พร้อมแล้วจะมีบุตรสักคนหนึ่ง บางครั้งอายุก็ล่วงไปมากโข ทำให้การที่จะมีลูกสักคนนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ยังไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว เพราะวิทยาศาสตร์ได้ก้าวหน้าไปมากให้ผู้หญิงสามารถ ฝากไข่ ไว้เพื่อวันที่ต้องการมีลูกได้สุขสมหวัง
เพราะสิ่งที่ธรรมชาติให้มา มักไม่เคยรอให้เราพร้อม แม้ผิวหนังภายนอกจะสามารถชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ด้วยการบํารุง แต่เซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายกลับ ถดถอยและเสื่อมโทรมไปตามวันเวลา โดยเฉพาะไข่ของผู้หญิงที่ลดน้อยลงทุกวัน
และไม่มีวิธีใดที่จะฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแรงดุจสาววัยแรกรุ่น เนื่องจากธรรมชาติได้กําหนดช่วงวัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิงไว้ตั้งแต่วัยรุ่นก่อนถึงวัยหมดประจําเดือน ในทางการแพทย์ ถือเป็นระยะเวลาที่เหมาะสําหรับการตั้งครรภ์ ซึ่งหากพ้นช่วงเวลานี้ไป ใจพร้อมแต่กายอาจพังได้ เพราะอายุที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้พบความผิดปกติของเซลล์ไข่เพิ่มขึ้น เหตุผลดังกล่าวอาจนํามาซึ่งการตั้งครรภ์ยาก และโอกาสที่จะมีทารกในครรภ์ผิดปกติ ดังนั้น ช่วงอายุที่เหมาะสมสําหรับการฝากไข่คือ 20-35 ปี
แม้ตอนนี้ คุณจะยังโสดอยู่หรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อคิดดีแล้วว่าอยากมีลูกในอนาคต ขั้นตอนต่อไปก็คือการเก็บไข่ ซึ่งจะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากพอสมควร เพราะกระบวนการเก็บไข่เพื่อการปฏิสนธินอกร่างกาย มีความซับซ้อนยุ่งยากมากพอสมควร เนื่องจากไข่มนุษย์มีขนาดเล็กประมาณ 100 ไมครอน ดังนั้น ขั้นตอนทั้งหมดจะต้องทําภายใต้กล้องจุลทรรศน์ และห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐาน
โดยต้องเริ่มจากการฉีดยากระตุ้นไข่ ตรวจอัลตร้าซาวนด์เพื่อติดตามการเจริญเติบโตของฟองไข่ เมื่อฟองไข่มีการเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว จึงจะมีการเก็บไข่ออกมานอกร่างกาย หลังจากนั้น ไข่จะผ่านกระบวนการแช่แข็ง และนําไปเก็บรักษาในอุณหภูมิเย็นจัด เพื่อรักษาสภาพ คุณภาพของไข่จะมีความใกล้เคียงกับตอนเริ่มต้น ก็จะถูกละลายเพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิสนธิต่อไป การฝากไข่จึงเหมาะสําหรับผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตรในอนาคต แต่ปัจจุบันยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร และรู้สึกเป็นกังวลว่าอายุที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลต่อความผิดปกติในการตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยยาเคมีบําบัด หรือการรักษาอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อรังไข่
เมื่อถึงวันที่คุณพร้อมจะเป็นแม่คนแล้ว ไข่ที่ฝากไว้ก็พร้อมใช้งานจริง คุณหมอจะนําไข่ที่แช่แข็งไว้ แล้วนําไปผสมกับน้ำเชื้อของคุณผู้ชาย ด้วยวิธีที่เรียกว่าการทําเด็กหลอดแก้ว ซึ่งหมายถึงการปฏิสนธินอกร่างกายนั่นเอง เดิมทีเป็นการปล่อยให้สเปิร์มเข้าไปเจาะไข่ด้วยตัวเอง แต่ในทางการแพทย์พบว่าวิธีดังกล่าว การปฏิสนธิมีอัตราไม่สูงนัก
ปัจจุบันจึงมีวิวัฒนาการใหม่ที่เหนือชั้นกว่าด้วยการช่วยให้สเปิร์มเข้าไปผสมกับไข่ เรียกว่าการทําอิกซี (Intracytoplasmic Sperm injection: ICSI) ซึ่งมีอัตราการปฏิสนธิสูงกว่ากระบวนการเด็กหลอดแก้วแบบดั้งเดิม กระทั่งเมื่อการปฏิสนธิสําเร็จและได้ตัวอ่อน คุณหมอจะนําตัวอ่อนใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูกอีกครั้งเพื่อรอการฝังตัว ซึ่งระยะเวลาแห่งการรอคอยนี้ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ โดยคุณหมอจะนัดเจาะเลือดว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม กระบวนการฝากไข่เป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก ดังนั้น ควรทําในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีแผนกรักษาผู้มีบุตรยาก และมีห้องแล็บเฉพาะทางที่สามารถให้บริการจัดเก็บ รวมทั้งมีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ครบครันทันสมัย จะว่าไปแล้ว การมีลูกคนหนึ่งสําหรับบางคนอาจเป็นเรื่องยากลําบาก แต่ไม่ว่าจะต้องเสียเงินหรือเจ็บตัวแค่ไหน ก็ถือว่าคุ้มค่าที่ได้ให้กําเนิดชีวิตใหม่ เพราะเด็กน้อยคือพลังวิเศษที่ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัว จนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน
เนื้อหาโดย Dodedencom