สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมในเมืองเทียนจินได้ตรวจสอบแหล่งน้ำ 25 แห่ง ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ปิดล้อมใกล้เคียงจุดเกิดเหตุระเบิดโกดังเก็บสารเคมี พบว่า 8 แห่ง มีไซยาไนด์ปนเปื้อนอยู่สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดถึง 350 เท่า
ก่อนหน้านี้ทางการระบุว่าพบไซยาไนด์สูงกว่ามาตรฐาน 28 เท่า แต่สำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมไม่ได้อธิบายว่าเหตุใดจึงมีการปนเปื้อนสูงกว่าเดิมมาก
เอเอฟพี รายงานด้วยว่าสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมได้ตรวจสอบพื้นที่ 16 จุด นอกเขตเตือนภัย และพบว่ามีไซยาไนด์ปนเปื้อนในพื้นที่ 6 จุด แต่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด
เหตุระเบิดที่โกดังเก็บสารเคมีในเมืองเทียนจิน ทำให้เกิดลูกไฟขนาดมหึมาลุกท่วม และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 114 คน และสูญหายอีกกว่า 60 คน นอกจากนี้ยังทำให้ชาวบ้านเกรงกลัวว่าจะมีสารพิษปนเปื้อนในอากาศและน้ำของเมือง ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ราว 15 ล้านคน ขณะที่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ามีสารพิษไซยาไนด์อยู่ในจุดเกิดเหตุราว 700 ตัน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้กระสอบทรายและดินกั้นพื้นที่รอบบริเวณที่เกิดระเบิดเป็นบริเวณ 1 แสนตารางเมตร เพื่อป้องกันการรั่วไหลของสารพิษ โดยเจ้าหน้าที่ยังยืนยันว่าน้ำและอากาศอยู่ในสภาพปลอดภัย แต่ชาวบ้านแสดงความกังวล ขณะที่กลุ่มสิ่งแวดล้อมอย่างกรีนพีซ เตือนให้ระมัดระวังอันตราย
โซเดียม ไซยาไนด์ เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท รวมทั้งการทำเหมืองทอง มีลักษณะเป็นผลึกสีขาวหรือเป็นผง สารเคมีชนิดนี้สามารถปลดปล่อยก๊าซไฮโดรเจนไซยาไนด์ ซึ่งเคยใช้ในกระบวนการรมแก๊สประหารชีวิตในสหรัฐฯ
สำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมสหรัฐระบุว่าการได้รับสารชนิดนี้ในปริมาณน้อยทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย วิงเวียน แสบตาและระคายเคืองที่ผิวหนัง แต่การได้รับเป็นเวลานานส่งผลต่อหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งระบบประสาทส่วนกลาง