ที่มา: dodeden

ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้  ( 31 มีนาคม 2560 )   ที่ศูนย์ประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี  ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล  สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม

ผู้แทนกรมบัญชีกลาง นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ประธานวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย และเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ แถลงข่าว การดำเนินการนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP)  หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เรื่อง “หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต”

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า นโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่” ที่มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ได้ทุกแห่งทั้งรัฐและเอกชนโดยไม่ต้องสำรองจ่ายเงินในระยะ 72 ชั่วโมงแรก

ซึ่งคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์วิธีการ เพื่อให้ประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตได้รับการดูแลความสะดวกปลอดภัย รวมทั้งแก้ไขในสิ่งที่เป็นข้อกังวล เช่นนิยามผู้ป่วยฉุกเฉิน อัตราค่าบริการ  การจ่ายเงิน การดูแลหลังพ้นวิกฤต 72 ชั่วโมง เป็นต้น

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ออกอนุบัญญัติตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ได้แก่ 1.การจำแนกประเภทผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินที่สถานพยาบาลไม่เรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลใน 72 ชั่วโมง  2. กำหนดหลักเกณฑ์ให้สถานพยาบาลในการดูแลรักษาผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินและการส่งต่อผู้ป่วยหากเกินขีดความสามารถเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเสียชีวิตหรือภายหลังพ้นวิกฤต 72 ชั่วโมง

3.หลักเกณฑ์อัตราค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินที่จะได้รับการชดเชยจากกองทุนต่าง ๆในอัตราที่คณะกรรมการสถานพยาบาลได้เสนอไปและคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา

สำหรับอนุบัญญัติ  2 ฉบับแรก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 31 มีนาคม 2560 นี้ และมีผลบังคับใช้ 1 เมษายน 2560 ซึ่งจะได้แจ้งเวียนประกาศฯไปยังสถานพยาบาลเอกชนทั่วประเทศให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายต่อไปเพื่อให้ผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินได้รับการดูแลรักษาพยาบาลจากสถานพยาบาลทุกแห่งใน 72 ชั่วโมงแรก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายสถานพยาบาลมีเจ้าภาพคือกองทุนต่าง ๆ ชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการบริการผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน

ทั้งนี้ ได้กำหนดให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เปิดศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต เป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการวินิจฉัยในการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บจากกองทุนต่าง ๆ

ส่วนระบบสำรองเตียงรับผู้ป่วยหลังพ้นวิกฤต 72 ชั่วโมงจากภาคเอกชนนั้น ในเขตกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานให้โรงพยาบาลรัฐทุกสังกัดรวมทั้งโรงพยาบาลในเขตปริมณฑลรองรับ

ในส่วนภูมิภาคโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งพร้อมรองรับเช่นกัน โดยมีเบอร์ศูนย์ประสานงานคุ้มครองสิทธิ์ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต สพฉ. หมายเลข 02 872 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ในส่วนของ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส. ) นายแพทย์วิศิษฎ์  ตั้งนภากร  อธิบดี ได้มอบหมายให้นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดี ร่วมแถลงข่าวการดำเนินดังกล่าวแทน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560

จากนี้ไปประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ทุกแห่ง และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ภายใน 72 ชั่วโมงแรก

เรื่องน่าสนใจ