ภาวะไตเสื่อมกับพฤติกรรมทำร้ายไต สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ด้วยไลฟ์สไตล์ของวัยทำงาน ทำให้เรายุ่งเเละมีเวลาดูแลสุขภาพน้อย ไม่ต้องพูดถึงคุณภาพของอาหารที่ทานระหว่างวันเลย ทั้งหวาน มัน เค็ม ยิ่งเวลาออกกำลังกายไม่ต้องพูดถึง ส่วนความเครียดก็พุ่งอีกเช่นกัน รู้ไหมคะว่าสิ่งเหล่านี้ อาจทำให้ไตเราเสื่อมจนเป็นโรคไตได้โดยไม่รู้ตัว ลองมาทำความเข้าใจกับโรคไต พร้อมวิธีดูแลตัวเองเสียใหม่ เพื่อยืดอายุไตของเราไปนานๆ ดีกว่าค่ะ
การใช้ชีวิตของคนทำงานทุกวันนี้ ทำให้มีแนวโน้มที่ไตจะเสื่อมได้ก่อนอายุ 50 ด้วยซ้ำ สิ่งที่ทำให้เกิดอาการไตเสื่อมมาจากหลายสาเหตุ ทั้งการทานยาแก้ปวดเป็นประจำ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ การทานอาหารเสริมบางประเภทเป็นประจำ เป็นโรคความดันสูง ซึ่งเกิดจากการทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ทานหวานมาก เค็มจัด เนื้อมันๆ หรือติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอักเสบเนื่องจากชอบกลั้นบ่อยๆ แม้กระทั่งคนที่เป็นเบาหวาน ก็มักจบด้วยการเป็นโรคไต และไตวายได้ในที่สุด
หากเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบตรวจสุขภาพประจำปี ก็พอมีอาการบอกเหตุว่าไตของเราเริ่มมีทีท่าน่าเป็นห่วงเเล้วล่ะ เราจะรู้สึกอ่อนเพลียไม่ค่อยมีแรง สมาธิในการทำงานลดลง เบื่ออาหาร นอนหลับยากหรือนอนไม่หลับเลย เป็นตะคริวในตอนกลางคืน ใบหน้า หนังตาบวม ขาและหลังเท้าบวม ผิวหน้าแห้งคัน ปัสสาวะบ่อยเเละบ่อยครั้งมากขึ้นในตอนกลางคืน รวมทั้งมีอาการปวดหลัง ไม่ใช่เเบบเรื้อรัง แต่เป็นๆ หายๆ บริเวณหลังไต เนื่องจากการติดเชื้อที่ไตหรือเป็นนิ่วในไต
วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การตรวจสุขภาพประจำปีนั่นเอง เชื่อว่าหลายต้องเคยคิดว่ามันจำเป็นมากเหรอกับการตรวจร่างกาย ยังหนุ่มยังสาวอยู่เลยคงไม่เป็นไร แต่แท้จริงเเล้ว หากได้รับการตรวจสุขภาพ และรับรู้สัญญาณอันตรายตั้งเเต่เนิ่นๆ จะทำให้เราสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที เพราะควรตรวจเลือดทุกปีเพื่อดูค่า creatinine (ของเสียที่เกิดจากกล้ามเนื้อ) และ GFR เพื่อดูอัตราการกรองของไต และตรวจปัสสาวะ
•••••••••••••••••••••••••••••••••••
ที่สำคัญที่สุดคือ หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะนานๆ ไม่ควรทานยาแก้ปวดติดต่อกัน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ทานอาหารเสริมอย่างเห็ดหลินจือ คลอโรฟิลด์ หรือสมุนไพรต่างๆ หลีกเลี่ยงแอลกฮอลล์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สุขภาพดี เท่านี้ก็เพียงพอเเล้วค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com
