มือยิงกระทิงในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จ.ราชบุรี เข้ามอบตัว จนท.ทำแผนชี้จุด รับสารภาพสิ้นได้ค่าจ้าง 3,000 บาท อ้างมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องด้วย
วันนี้ (2 พ.ย. 58) พ.อ.วุทธยา จันทมาศ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ร.ต.อ.สิทธิกร ใจคำ ร้อยเวร สภ.บ้านคา นายประทีป เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี จ.ราชบุรี นายมนตรี โภคานิตย์ ปลัดอำเภอบ้านคา สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณหมู่ที่ 9 บ้านพุขี้เหล็ก ต.บ้านคา อ.บ้านคา ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หลังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบล่ากระทิง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เมื่อคืนวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมีการชำแหละเนื้อกระทิงใส่ถุงลงจากเขานำมาแปรรูปเป็นอาหาร แล้วนำหัวกระทิงไปทิ้งเพื่ออำพรางซ่อนเร้นบริเวณชายป่า
เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันกดดันสืบสวนหาตัวผู้เกี่ยวข้องจนสืบทราบมีชาวบ้านได้ติดต่อผ่านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ขอเข้ามอบตัว โดยได้ขุดพบหัวกระทิงลึกลงไปประมาณ 50 เซนติเมตร พบถุงย่ามและหัวกระทิงเพศผู้ถูกฝังอยู่เริ่มส่งกลิ่นเหม็น เจ้าหน้าที่ได้นำตลับเมตรวัดความยาวของเขากระทิงประมาณ 62 เซนติเมตร วัดรอบโคนเขาประมาณ 29 เซนติเมตร ระหว่างปลายเขาประมาณ 15 เซนติเมตร คาดว่ากระทิงตัวที่ตายมีน้ำหนักประมาณ 1 ตัน ส่วนหัวกระทิงที่พบมีลักษณะเขาแหลมม้วนโค้งสวยงามหายากกว่าเขากระทิงที่พบเห็นทั่วไป ซึ่งหากนำไปขายจะมีราคาแพงถึงเกือบ 2 แสนบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายศิริ ศรีงาม อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 9 ต.บ้านคา หลังได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับนายบุญมี อนุตโร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 พร้อมยอมรับสารภาพพร้อมกับอ้างว่า ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้นายหนึ่งนำอาวุธปืน 2 กระบอกเดินเท้าขึ้นไปล่ายิงกระทิงที่บนเขาโดยมีป่าไม้เป็นคนจัดหาอาวุธปืนให้ โดยตัวเองเป็นคนยิงกระทิง พร้อมกับช่วยต้อนกระทิงตัวดังกล่าวให้ยิงไป 3 นัด ถูกบริเวณหัว และแถวรักแร้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้โทรศัพท์ให้นำคนประมาณ 8 คน มีชาวพม่า 6 คน คนไทย 2 คน ขึ้นไปช่วยกันนำชำแหละเนื้อใส่ถุงกระสอบลงมา โดยได้ค่าจ้างการยิงครั้งนี้จำนวน 3,000 บาท สำหรับเนื้อกระทิงที่นำลงไปด้านล่างได้แบ่งกันกิน แต่ตัวเองยังไม่ทันได้กิน เพราะโดนติดตามค้นหาตัว จึงหลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนหัวกระทิงที่ขุดพบนี้ไม่รู้ว่ามาฝังที่จุดนี้ได้อย่างไร
โดยเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังแบ่งออกเป็น 2 จุด ได้แก่ จุดบริเวณบนภูเขาต้องเดินเท้าขึ้นไปยังที่เกิดเหตุยิงกระทิงใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 ชั่วโมง และจุดตรวจค้นบ้านของเจ้าหน้าที่ป่าไม้นายหนึ่งที่ถูกอ้างว่ามีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว จากการตรวจสอบพบไม้มะค่าโมงแผ่นใหญ่ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามซุกซ่อนอยู่บริเวณบ้านจำนวนหนึ่งแต่ไม่พบเจ้าหน้าที่ป่าไม้คนดังกล่าวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกำลังทหารนำโดย ร.อ. วรภาส เบ็ญจชาติ หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว ฉก.ทัพพระยาเสือ ได้นำตัวผู้ต้องหาเดินเท้าขึ้นไปทำแผนที่เกิดเหตุซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางขึ้นเขาห่างจากจุดที่พบหัวกระทิงประมาณ 2 ชั่วโมง และแบ่งกำลังออกสืบสวนติดตามตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ตามมาตรา 16 การล่าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองในพื้นที่ทั่วไป มีโทษจำคุก 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท มาตรา 19 ครอบครองสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองรวมทั้งซาก ที่มิได้มาจากการเพาะพันธุ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 55 ในการซ่อนเร้นอำพรางซาก มาดำเนินคดีตามกฎหมาย