ที่มา: aic-clinic.com

ยกกระชับหน้าง่ายๆ ด้วยเทคนิค BUTTERFLY LIFT เราเชื่อว่าหลายคนคงมีความกังวลเกี่ยวกับความหย่อนคล้อยของใบหน้า ที่มีสาเหตุหลักๆ มาจากการสูญเสียปริมาตรของเนื้อเยื่อใต้ผิว รวมถึงการบางตัวลงของกระดูกโครงหน้า หรือที่เรียกว่ารวมๆว่า Volume Loss 

 

ยกกระชับหน้าง่ายๆ
ภาพจาก picosmeticsurgery.com

 

ยกกระชับหน้าง่ายๆ ด้วยเทคนิค BUTTERFLY LIFT

เวลาแก้ปัญหาการหย่อนคล้อย ทั้งแพทย์และตัวคนไข้ มักมองว่าการรักษาการหย่อนคล้อยควรเริ่มที่การดึงผิวให้ตึง เพื่อยกกระชับ ไม่ว่าจะด้วยการผ่าตัดดึงหน้า หรือการร้อยไหม ซึ่งเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ หรือยิ่งการรักษาด้วยเครื่องมือต่างๆ ทั้งเลเซอร์ คลื่นวิทยุ หรืออัลตราซาว ก็ยิ่งไม่ได้ผล เพราะกระตุ้นผิวได้ไม่ลึกพอ หรืออย่างเก่งก็ลงได้แค่ชั้นที่เรียกว่า SMAS ซึ่งก็ยังถือว่าตื้นเกินไป

 

ยกกระชับหน้าง่ายๆ
ภาพจาก beauty4eva.com

 

อีกเหตุผลก็คือชั้น SMAS เป็นชั้นเนื้อเยื่อเหนียวๆ มันไม่สามารถถูกกระตุ้นให้หดตัว หรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้ แต่สามารถใช้เย็บดึงหน้าได้ เพราะมันเหนียว ไม่ยืดหยุ่นเหมือนผิวหนังเรา การผ่าตัดดึงหน้าโดยการเย็บผูกที่ชั้น SMAS จึงได้ผล และอยู่นาน แต่การร้อยไหมชนิดที่มีแง่งเกี่ยวหรือกรวย เป็นการเกี่ยวยึดที่ผิวหนังเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ผิวหนังยืดออก ทําให้การรักษาไม่ได้ผล ในขณะที่การร้อยไหมเส้นเล็กที่ไม่มีแง่ง ออกฤทธิ์โดยกระตุ้นผิว ก็จะค่อยๆกระตุ้นผิวให้หดตัวเพื่อหวังผลยกกระชับ แต่ทุกวิธีที่กล่าวมา ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะไม่มีวิธีไหนเลย ที่แก้สาเหตุการยุบตัว หรือ Volume  loss

 

ยกกระชับหน้าง่ายๆ
ภาพจาก sonataskinandbody.com

 

สําหรับการผ่าตัด อาจเห็นว่าหน้าตึงขึ้นก็จริง แต่ก็เสียมิติของใบหน้า และดูไม่เป็นธรรมชาติ เพราะไม่ได้แก้การยุบตัวโดยเฉพาะโครงหน้า ดังนั้น การรักษาที่ถูกต้องและตรงจุด ควรเริ่มที่การแก้การยุบตัวก่อน ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือการฉีดฟิลเลอร์ โดยจุดฉีดจะคํานึงถึงหลักการวิเคราะห์ใบหน้า (Facial analysis) คือ ใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง (Mid face & Lower face) เป็นส่วนที่เกิดการหย่อนคล้อยก่อนส่วนอื่น และเป็นมากกว่าส่วน อื่น เนื่องจากส่วนนี้มีการเคลื่อนไหวมากกว่าส่วนอื่นนั้นเอง การแก้ปัญหาจึงควรเริ่มที่จุดเหล่านี้ก่อน

 

ยกกระชับหน้าง่ายๆ
ภาพจาก health.ccm.net

 

เทคนิค Butterfly Lift
เทคนิคดังกล่าวมีหลักการคือ ใช้การฉีดฟิลเลอร์ด้วยเข็มปลายทู่ ลงไปที่จุดต่างๆ บนโครงกระดูกใบหน้า เปรียบเสมือนรูปปีกผีเสื้อ โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์ลงลึกไปวางบนกระดูกโหนกแก้ม
    ส่วนที่เรียกว่า Malar Bone จุดฉีดนี้จะช่วยยกแก้มส่วนหน้า และยังช่วยแก้ปัญหาใต้ตาล็กได้ด้วย
  • ฉีดฟิลเลอร์ลงลึกไปวางบนกระดูกโหนกแก้มด้านข้าง
    ที่เรียกว่า Zygomatic arch โดยวางฟิลเลอร์ให้เป็นรูปเหมือนปีกผีเสื้อ จุดฉีดนี้จะช่วยยึด และดึงยก แก้มส่วนด้านข้าง
  • ฉีดฟิลเลอร์ลงลึกไปวางบนกระดูกขากรรไกรบน
    ส่วนที่เรียกว่า Canine Fossa หรือตําแหน่งประมาณร่องแก้มตรงปีกจมูก การฉีดจุดนี้ ไม่ได้มุ่งหวังแก้ร่องแก้ม แต่มุ่งหวังให้ฟิลเลอร์ลงไปช่วยค้ำยัน (Support) แก้ม ทําให้จุดฉีดที่ 1 ช่วยยกแก้มได้ดีขึ้น

 

ยกกระชับหน้าง่ายๆ
ภาพจาก news-medical.net
  • ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อแก้การยุบตัวของมุมปาก และด้านข้างของคาง
    จุดนี้ไม่จําเป็นต้องฉีดลึก ฉีดเข้าที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังก็เพียงพอสําหรับช่วยยกมุมปากที่ตก

 

  • ฉีดลึกลงไปที่คางเล็กน้อย
    ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นจุดยึด หรือ Anchoring point เทคนิคดังกล่าวนี้ เป็นการใช้ฟิลเลอร์ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ คือ
  • 1. ใช้ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มให้กับส่วนที่ยุบตัวใต้ผิว และกระดูก
  • 2. ใช้ฟิลเลอร์เพื่อดึงให้เกิดการยกกระชับ
  • 3. ใช้ฟิลเลอร์ เป็นตัวค้ำยัน และจุดยึด
  • 4. ใช้ฟิลเลอร์ช่วยปรับโครงหน้า

เห็นมั้ยคะว่า ฟิลเลอร์ทําอะไรได้มากกว่าที่หลายๆ คนเคยคิด การฉีดด้วยเทคนิค Butterfly Lift จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-4 หลอด ถ้าฉีดได้ถูกเทคนิค จะพบว่าหน้าดูยกกระชับ และดูหน้าเรียวเล็กขึ้นทันที ซึ่งต่างกับเทคนิคการฉีดแบบเก่า ซึ่งทําให้หน้าดูอ้วนใหญ่ขึ้นหลังฉีด ถึงแม้จะฉีดด้วยเข็มปลายที่เหมือนกันก็ตาม ทําให้คนไข้รู้สึกหน้าบวมใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะหลังการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้าส่วนกลาง (Mid face)

 

ยกกระชับหน้าง่ายๆ
ภาพจาก aic-clinic.com

 

ข้อควรระวังและผลข้างเคียง

  • การฉีดด้วยเทคนิค Butterfly Lift
    ต้องฉีดด้วยเข็มปลายพู่เท่านั้น เพราะการฉีดลงลึกหลายตําแหน่งอาจมีอันตรายจากการฉีดถูกเส้นเลือดได้ นอกจากนี้ การฉีดด้วยเข็มปลายที่จะทําให้เกิดการยกกระชับได้ดีกว่าด้วย เพราะสามารถฉีดให้กระจายตัวยาฟิลเลอร์ได้ดีและเรียบเนียนกว่า

 

ยกกระชับหน้าง่ายๆ
ภาพจาก jamanetwork.com
  • การเลือกตัวยาฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
    จะทําให้ผลการรักษาดีขึ้น และดูเป็นธรรมชาติกว่า เพราะฟิลเลอร์บางยี่ห้ออาจดูดน้ำมาก ทําให้หน้าดูบวมหลังฉีด นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยต้องเป็นชนิดที่ไม่ได้ผลิตมาจากสัตว์ หรือที่เรียกว่า Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid (NASHA) ซึ่งมีความปลอดภัยสูง และการใช้ฟิลเลอร์ที่เนื้อเจลประกอบด้วย HAอนุภาคใหญ่ (Large-particle HA gel) ที่มีขนาดเท่าๆ กัน จะทําให้การยกหน้าทําได้ดีกว่า และคงรูปอยู่ได้นานกว่าด้วย
  • การเขียวช้ำ
    พบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่เกิดจากการฉีดยาชา การรักษาด้วยเทคนิค Butterfly Lift ปกติไม่มีรอยเขียวช้ำ และไม่ต้องพักฟื้นเลย

…………………………………………………………..

 

การรักษาเพื่อการยกกระชับ ควรเริ่มที่การแก้ปัญหาการยุบตัวใต้ผิว และโครงกระดูก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการหย่อนคล้อย การฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค Buterfly Lift เป็นวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และได้ผลดีสําหรับการแก้ปัญหาในเบื้องต้น หากแพทย์ผ่านการเรียนการสอนที่ถูกต้อง ก็สามารถให้การรักษาด้วยเทคนิคนี้ได้ โดยไม่จําเป็นต้องเก่ง หรือต้องมีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์มามาก เพราะเป็นเทคนิคที่ง่าย และได้ผลการรักษาที่ดี โดยไม่ต้องไปเสี่ยงกับการผ่าตัดที่อาจยังไม่จําเป็น หรือการรักษาที่ผิดวิธี ทําให้เสียเงินฟรี และเสี่ยงกับผลข้างเคียง

 

เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ