ตำรวจร่วมกับทหาร ดีเอสไอและ ปปง.เปิดยุทธการทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ บุกจู่โจมแต่เช้ามืดปิดล้อมจับกุม “โกนั้ง” นายกสมาคมประมงจังหวัดตรัง พี่ชายนายกเล็กเมืองกันตัง พร้อมพวกรวม 8 คน ยึดเรือประมงอีก 4 ลำ ปืน 1 กระบอก หลังตรวจสอบพบว่าอยู่ในเครือข่ายค้ามนุษย์ชาวพม่า ผบช.ภ.9 ลั่นเตรียมจับเพิ่มนักธุรกิจพัวพันค้ามนุษย์ ยืนยันผู้ต้องหาที่ถูกจับไม่เกี่ยวกับแก๊งค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา
ตำรวจร่วมกับดีเอสไอและ ปปง.สนธิกำลังเปิดยุทธการทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ บุกรวบนายกสมาคมประมงจังหวัดตรัง พร้อมพวกรวม 8 คน หลังถูกกล่าวหาร่วมกันค้ามนุษย์รายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ตรัง พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง จตร. (สบ 7) พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จ.ตรัง ตำรวจจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ทหารทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปราบการฟองเงิน (ปปง.) และมูลนิธิ EJF ร่วมกันแถลงข่าวผลการกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาในความผิดฐานค้ามนุษย์ ผู้ต้องหา 8 คน ของกลางเรือประมง 4 ลำ
พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 แถลงว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง จตร. (สบ 7) ได้ประสานหน่วยงานต่างๆ ทั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย โดยทัพเรือภาคที่ 3 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง สำนักงานคุ้มครองแรงงานจังหวัดตรัง และมูลนิธิ EGF บูรณาการร่วมกันทำการช่วยเหลือเหยื่อแรงงานต่างด้าวในเรือประมงต่างๆในเขตจังหวัดตรัง ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.
ที่ผ่านมา พบว่ามีแรงงานชาวพม่าตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ 11 คน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดตรัง ออกหมายจับผู้กระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์และสมคบกันตั้งแต่ 3 คน ขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
พล.ต.ท.วีรพงษ์ แถลงอีกว่า ต่อมาเมื่อช่วงเช้ามืดของวันเดียวกัน ตำรวจสนธิกำลังเปิดยุทธการขจัดภัยค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมงจังหวัดตรัง โดยแบ่งกำลังชุดปฏิบัติการออกเป็น 2 ส่วน คือ ภาคพื้นดิน และทางทะเลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายรวม 11 จุด ยึดเรือประมงได้ 4 ลำ ปืน 9 มม. 1 กระบอก กระสุน 18 นัด และสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 8 คน ประกอบด้วย
ทั้งนี้ตำรวจยังได้ตรวจยึดเอกสารต่างๆ ทรัพย์สิน อาวุธปืนไว้ตรวจสอบ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเครือข่ายของนายสมพล หรือ “โกนั้ง”
พล.ต.ท.วีรพงษ์ แถลงต่อไปอีกว่า คดีนี้ยืนยันว่าไม่มีมวยล้ม เพราะตนไม่ใช่นักมวย ส่วนระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวนนำส่งฟ้องในชั้นอัยการต้องขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นอีกหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจที่เป็นเป้าหมายอยู่อีกในพื้นที่ อ.กันตัง และคดีนี้เป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่าไม่เกี่ยวกับโรฮีนจาแต่อย่างใด กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ แต่ต้องทำอย่างรัดกุม เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ตำรวจไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวแต่อย่างใด สำหรับนายสมพล หรือ “โกนั้ง” เป็นพี่ชายของนายสรนนท์ จิโรจน์มนตรี หรือ “โกง้วน” นายกเทศมนตรีเมืองกันตัง จ.ตรัง โดยนายสมพลนับเป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียงคนหนึ่งของจังหวัด