เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก ทิมโมธี จูเลียน นักศึกษาปริญญาเอกแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่กล่าวว่า จากผลการศึกษาพบว่า หน้าจอทัชสกรีนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคดี ๆ นี่เอง เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่า ก่อนที่ไปสัมผัสหน้าจอ มือและนิ้วของคุณไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกอะไรมาบ้าง และคนโดยส่วนใหญ่ก็ไม่มีอนามัยมากพอที่จะล้างมือตลอดเวลา หรือล้างมือก่อนมาใช้จอทัชสกรีน
เขายังกล่าวเสริมให้น่าตกใจอีกว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณนำสิ่งสกปรกมาสัมผัสหรือสะสมไว้ที่หน้าจอ เชื้อโรคประมาณ 30% จะติดไปกับนิ้วมือคุณทันทีที่คุณแตะจอทัชสกรีน และมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่เชื้อโรคเหล่านี้จะเข้าสู่ร่างกายทางปาก จมูก และดวงตา เพราะคุณอาจใช้นิ้วขยี้ตา จับปากหรือเกาจมูกโดยไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ยังมีผลงานวิจัยของอังกฤษระบุว่า โทรศัพท์มือถือที่เราต้องนำมาใช้แนบแก้มแนบหูกันตลอดเวลา ก็มีสิ่งสกปรกมากกว่าที่คันกดชักโครกในห้องน้ำชายถึง 18 เท่าเลยทีเดียว โดยเฉพาะเชื้อโรคที่มีชื่อว่า E. coli และ Staphyloccocus aureus ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง สิว ฝีหนอง และถ้าได้รับเชื้อมาก ๆ ก็ทำให้ปอดอักเสบ หรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้เลยทีเดียว
1. ใช้นำยาทำความสะอาดหน้าจอทัชสกรีนโดยเฉพาะ ทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง หรือเมื่อเห็นว่าหน้าจอมีคราบสิ่งสกปรกติดอยู่
2. ไม่ควรใช้อุปกรณ์ทัชกรีนร่วมกับผู้อื่น เพราะอุปกรณ์อาจจะได้รับเชื้อโรคจากคนอื่น หรือแพร่เชื้อโรคให้คนอื่นได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้ร่วมกัน ก็ควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้เสร็จ
3. ควรล้างมือทั้งก่อนและหลังใช้อุปกรณ์ทัชสกรีน อาจจะยุ่งยากไปหน่อย แต่ก็สามารถช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อโรคได้ดีที่สุด
4. ระหว่างใช้อุปกรณ์ทัชสกรีน ไม่ควรใช้มือ หรือนิ้วมาสัมผัสร่างกาย ในส่วนที่เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย เช่น ตา ปาก จมูก รูหู หรือผิวหนังบริเวณที่มีบาดแผล
5. หลังจากใช้อุปกรณ์เสร็จแล้ว ควรเก็บในที่มิดชิด เช่น ใส่กระเป๋าเก็บอุปกรณ์โดยเฉพาะ ไม่ควรวางไว้ในที่โล่ง หรือที่ที่เชื้อโรคจะสามารถแพร่กระจายมาสู่อุปกรณ์ของเราได้
ไม่ใช่แต่อุปกรณ์ทัชสกรีนหรือเครื่องมือทันสมัยเท่านั้นค่ะ สิ่งของรอบตัวที่เราอาจจะต้องใช้ร่วมกับคนอื่น เราก็ต้องระวังไว้เช่นกัน เช่น ราวบันได ปุ่มกดในลิฟท์ เก้าอี้นั่งบนรถเมล์หรือรถไฟฟ้า สิ่งเหล่านี้ก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ที่เรามักจะไปสัมผัสโดยไม่รู้ตัวเช่นกันค่ะ และถึงแม้เราจะตามไปทำความสะอาดของพวกนี้ไม่ได้ แต่ให้รักษาความสะอาดของตัวเราเองเป็นหลักก็พอค่ะ
Credit : health.kapook.com