ในภาวะการดำรงชีวิตในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ อยู่ภายใต้ภาวะกดดัน และความเครียดต่างๆรวมไปถึงอาหารที่รับประทานในทุกๆ วันล้วนเป็นปัจจัยสะสมที่ส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการท้องผูกซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว รวมไปถึงโรคร้ายต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้
นางสาวเจิดสาย สุขแก้ว ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แผนก เฮลท์แคร์ บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “อาการท้องผูกเป็นปัญหาที่มักพบในทุกเพศทุกวัย โดยคนส่วนใหญ่มักที่จะละเลยกับปัญหาสุขภาพนี้ เพราะคิดว่าเป็นปัญหาที่ไม่รุนแรงและหายเองได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาการท้องผูกเป็นสัญญาณอันตรายที่อาจทำให้เกิดปัญหา สุขภาพที่ตามมาอีกมากมาย อาทิ สิว นอนไม่หลับ สารพิษสะสม และที่ร้ายแรงที่สุดคือโรคมะเร็งลำไส้
สำหรับวิธีรักษาอาการท้องผูกและลด อาการไม่สบายในช่องท้องนั้น ควรเริ่มด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น บริโภคอาหารให้พออิ่ม บริโภคอาหารที่มีเส้นใยสูง ส่วนผู้ที่มีข้อจำกัดในการทานอาหารที่มีเส้นใยในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์เพิ่ม กากใยอาหารซึ่งช่วยปรับสมดุลของร่างกายและทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ นอกจากนี้ผู้ที่มีปัญหาท้องผูกควรดื่มน้ำให้มากกว่าที่บริโภคอยู่เป็นประจำ ขั้นตอนต่อมาควรพิจารณาเลือกใช้ยาระบายจากธรรมชาติ เช่น ยาระบายที่มีส่วนผสมของมะขามแขก เป็นต้น
ด้าน นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช กล่าวถึงสาเหตุของอาการท้องผูกที่อาจมาจาก 2 ส่วน คือ สาเหตุจากนอกลำไส้ ได้แก่ ลำไส้แปรปรวน ความเครียดลงลำไส้ นอนดึก อาหารและยาบางชนิดที่มีผลทำให้ท้องผูก และสาเหตุจากในลำไส้ หรือที่เรียกว่า ลำไส้ขี้เกียจ ลำไส้ขยับน้อยจากระบบประสาท การตั้งครรภ์ และการมีโรคที่ตัวลำไส้เอง ทั้งนี้พฤติกรรมการขับถ่ายแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ทุกคนควรสังเกตว่าโดยปกติจะขับถ่ายในระยะเวลาประมาณเท่าไหร่ หากมากกว่านั้นก็ให้สงสัยว่ากำลังมีอาการท้องผูก
นอกจากโรคที่อาจเกิดขึ้นตามข้างต้น แล้ว อาการท้องผูกหากทิ้งเอาไว้เป็นระยะเวลานานอาจเป็นสาเหตุของโรคที่ร้ายแรง นั่นคือ มะเร็งลำไส้ ซึ่งจากงานวิจัยที่เผยในงาน American College of Gastroenterology’s 77th Annual Scientific Meeting เมื่อปีที่ผ่านมาพบว่า ท้องผูกเรื้อรังมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Chronic Constipation Linked to Increased Risk of Colorectal Cancer) ผู้ที่ท้องผูกเรื้อรัง (Chronic Constipation) พบมะเร็งลำไส้ใหญ่และเนื้องอกลำไส้ชุกกว่ากลุ่มควบคุม และความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่มากขึ้นถึง 1.78 เท่า และเนื้องอกในลำไส้ถึง 2.70 เท่า แม้จะไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็นเหตุและผลกันโดยตรง แต่เรื่องท้องผูกกับลำไส้ใหญ่เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องป้องกันไว้ก่อน
“เราเองสามารถสังเกตสัญญาณอันตรายที่ ชวนสงสัยว่ามีความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ร่วมกับท้องผูกได้คือ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องผูกสลับกับท้องเสีย และพบเม็ดเลือดแดงในอุจจาระ นอกจากโรคร้ายอย่างมะเร็งแล้ว การที่ร่างกายสะสมพิษเอาไว้มากเกินไป ยังเป็นตัวทำให้ร่างกายเสื่อมเร็วหรือพูดง่ายๆ ว่า “แก่” ซึ่งถ้าลำไส้ทำหน้าที่ของตัวเองโดยการ “ระบาย” ออกได้ดีเป็นปกติก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าระบายติดๆ ขัดๆ ผิดนัดบ่อยก็ง่อยนะครับ” คุณหมอกฤษดา กล่าวเสริม
การเก็บพิษจากอาการท้องผูกเรื้อรังมี อันตรายต่อร่างกายมากกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันโดยตรง เช่น อาการสิว โรคนอนไม่หลับ ริดสีดวง แผลปริทวารหนัก และลำไส้อุดตันแล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งลำไส้อีกด้วย ดังนั้น ระบบระบายในร่างกายที่เป็นปกติ จะช่วยขจัดของเสียและสารพิษ เพื่อให้คุณไกลจากโรคร้ายและช่วยชะลอวัยด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก: ผลิตภัณฑ์เสโนคอต www.senokot.co.uk