สวัสดีทุกคนนะคะ วันนี้เราจะมาฝากตัวกับทุกคนก่อน5555 อิชั้นทำงานเป็นช่างแต่งหน้าอิสระนะคะ(อาจจะใช้ภาษาอาจจะไม่ถูกต้องยังไงได้โปรดอภัย) ท้าวความ ก่อนคือเป็นคนที่หน้ากลมมาแต่ไหนแต่ไร ด้วยความที่บรรพบุรุษเป็นคนจีน หน้าก็เลย “แป้น “แล้นแบบคนจีนไงคะ 5555
เวลายิ้มหน้าเบสจะแยกเป็นสามก้อนก็คือ โหนกแก้ม ช่วงใต้โหนกต่อกับกราม และก็ ก้อนที่ต่อจากมุมปากใต้หน้าแก้ม กลายเป็นคนไม่กล้ายิ้ม รุ้สึกว่ายิ้มแล้วไม่มั่นใจ จริงๆก็ลองมาหมดทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็น โบท็อกซ์ เมโส..โปเตเมีย ไปจนถึง ร้อยไหม ก็เหมือนจะดีขึ้นหน่อย แต่ก้ไม่มีอะไรชนะแก้มอิชั้นได้เลยค่ะ
ได้ทำงานแต่งหน้าให้ รุ่นน้องคนนึงถ่ายแบบ ซึ่งเคยแต่งหน้าชีมาเมื่อนานมาแล้ว ชีมีปัญหาเดียวกันค่ะ นั่นก็คือเวลายิ้มแล้ว มีก้อนแก้มช่วงที่ต่อกับมุมปากแต่ล่าสุดคือมันหายไป อิชั้นก็กล้าๆกลัวๆ เอ….ตูจะถามดีมั้ยว้า ว่าไปทำอะไรมา
จนสุดท้าย ด้วยความอัดอั้น เลยพูดไปว่า หนู ๆ ทำไมหน้าเรียวขึ้น เข้ากล้องแล้วปังมากกกก ชีตอบมาด้วยความมั่นหน้าว่า “อ้อ ตัดไขมันกระพุ้งแก้มมาข่ะ คุนเจ้”
เราก็ได้แต่ อุ้ย!!!ในใจ แต่สมองสั่งการว่าเดี๋ยวเราเจอกันได้จ่ะ ไขมัน เดี๋ยวรู้เลย จนสุดท้ายหาข้อมูล หาคลิป และจากคำบอกเล่า เลยไปลงตัวที่ หมอ อาร์ท the art clinic
ก็ได้ทราบจากคุณหมอว่า การตัดไขมันจะเป็นแบบถาวรนะตัดแล้วตัดเลย 1-2 เดือนจะเห็นผล แผลประมาณ 1 เซนต์นะ ปิดแผลด้วยไหมละลาย ไม่ต้องตัดไหม เราก็เออมาค่ะ ทำค่ะ
วันนี้คือวันที่ 27 พย เป็นวันที่ เบสท์มาปรึกษาและ ดันโชคดี มีคิวว่างได้ทำเลย เพราะเป็นการผ่าตัดเล็ก ก็เลยไม่ได้ใช้เวลานานเท่าไหร่นักอะเนอะ ด้วยความใจร้อนทำเลยจ่ะ เชิ่ด
เริ่มด้วยหน้าตอนมาถึงค่ะคุยเสร็จอะไรเสร็จ
และเราก็โดนล้างหน้าจนสดค่ะ
ซูมๆเวลายิ้มจะมุมตรงมุมเสยให้ดูกรุบ ๆ
สวัสดีพี่เขียงอิชั้นพร้อมโดนเชือดละค่ะ หนึ่ง สอง สาม เริ่มข่ะ…เอ้าไปข่ะ
สภาพตอนเสร็จผ่านศึกสงครามเหมือนไปเขาชนไก่มากรุบ 555555
นี่คือไขมันของชั้นเองงงงงง ไม่ลงภาพสีนะคะเดี๋ยวจะทานข้าวไม่ลง
ควาามรู้สึกหลังขึ้นเขียง ตอนแรกกลัว…..มันจะเจ็บเหรือเปล่า เพราะทุกครั้งที่เคยผ่าตัดมาคือ วางยาอะเนอะ ก้เจ็บตอนฉีดยาชานิดหน่อย หลังจากนั้นคือ โอ้ววววโหหหหห ลงมีดจนเย็บคือไม่รุ้สึกไปเลย ชิวเว่ออออ หลังจากนั้นก็รับยาอะไรตามระเบียบค่ายาหนึ่งพันบาท สนนราคาค่าผ่าตัดคือ หนึ่งหมื่นแปดพันบาทถ้วน ผ่าเสร็จบวมนิดนึง ทางคลีนิคให้ผ้าปิดปากมาด้วยน่ารักที่สุด แอ๊บป่วยได้สบ๊ายยยย
ถึงบ้านแล้ววววววววว อัพเดทหลังจากผ่ามา 5 ชม. บวมนิดนึง
มาต่อกันที่วันที่ 2 กินได้แค่น้ำๆ อาทิเช่น น้ำ นม น้ำผลไม้ ห้ามมีกาก ใดใดๆ และยังต้องใช้น้ำยาบ้วนปากตลอดห้ามแปรงฟัน ความรุ้สึกก็ตึงๆและ รำคาญไหมในปาก 55555 เป็นคนโรคจิตชอบเอาลิ้นไปดุนๆไหมเล่น เริ่มมีความบวมขึ้น บวมแบบหน้าอิ่มสวยยุคคุณปุ๋ยพรทิพได้ตำแหน่งนางงามจักวาล 5555 แต่ก็ออกมาทำงานได้ปกตินะคะ แค่ปิดหน้ากาก
วันที่ 3 ยังกินได้แค่น้ำๆอยู่ และ ยังต้องใช้น้ำยาบ้วนปากตลอดห้ามแปรงฟัน วันนี้คือยังไม่ออกอาการบวมกว่าเดิมเท่าไหร่ แต่เขียวปั้ดมากๆๆๆ
วันที่ 4 เริ่มแอบกินข้ามต้มไข่เจียว แต่จริงๆหมอยังห้ามอยุ่ 5555555 และ ยังต้องใช้น้ำยาบ้วนปากตลอด แต่กลางคืนอิชั้นแอบแปรงฟันเบาๆเพราะเริ่มไม่ไหวเขียวปั๊ดดดดดดดด และบวมจนหน้าอิ่มกลมกว่าเดิมเหมือนอมอะไรอยู่ 555
วันที่ 5 อิชั้นกินข้วมต้มไข่เจียวเป็นหลัก ยังต้องใช้น้ำยาบ้วนปากตลอด และแปรงฟันก่อนนอน มีข้างนึงบวมมากกกกกจ้า และ ช้ำกระจายขึ้นอีก
วันที่ 6 กินปกติ แค่เคี้ยวระวังหน่อย อ้าปากได้ไม่กว้างเท่าเดิม ทุกวันเบสก้ออกไปทำงานแต่งหน้าปกติ แต่ใส่หน้ากาก แต่ดั้น วันนี้ อิชั้นต้อง ใช้หน้าทำมาหากิน ถ่ายงานค่ะ ก็เลยตามมีตามเกิด แต่งเท่าที่จะแต่งได้ เดชะบุญ มันเริ่มยุบลงหน่อยนึงแล้ว แต่ยังเขียวอยู่
วันที่ 7 วันนี้คือไม่มีอาหารบวมใดใด กินปกติ แต่ยุบกลับสภาพปกติเหมือนก่อนทำค่ะ
วันที่ 8 จะหายเขียวนะเด้อออออออออออออออออ ไหมหลุดเรื่อยๆ กินปกติ
วันที่ 10 อันนี้คือเริ่มเห็นผลนะ รุ้สึกว่า เวลายิ้มมันไม่บานเท่าเดิม
รูปบนก่อนขึ้นเขียง รูปล่างหลังขึ้นเขียง 10 วัน
อันนี้จากซ้ายไปขวา ก่อนทำ > 7 วัน > 10 วัน
วันที่ 16 บนก่อนทำ ล่างวันที่ 16
ซ้าย ก่อนทำ ขวาวันที่ 16
และแล้วก็ผ่านมาได้วันที่ 28 นะคะ
คือต้องบอกก่อนว่า เบสทำมาทุกวิธีแล้วหน้ามันบานอะเป็นแก้มเบบี้แฟต และวิธีนี้เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ สุดท้ายก้ตัดสินใจทำ กับหมออาร์ท เค้าบอกว่า จะยุบลงถาวร แผลแค่ 1 เซนต์ ก็เลยตัดสินใจทำ!!!! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรปรึกษาเพทย์ก่อนว่าเรามีปัญหาที่ไขมันส่วนไหน เพราะว่าการผ่าตัดแบบนี้จะแก้ในส่วนของไขมันชั้นในซึ่งไม่สามารถที่จะฉีดลดได้นั่นเองค่ะ
ผลลัพธ์จากในความคิด และคนรอบข้าง บอกว่า หน้าเปลี่ยนนะคะ คือคนรอบข้างเห็นว่าหน้ายุบลง บางส่วนบอกว่าดี ดูเป็นสาวขึ้นได้รูปขึ้นดูหน้าหวานขึ้น แต่บางส่วนบอกว่าแบบเก่ายุ้ยๆน่ารักกว่า ชอบแบบเดิม เพราะหลังจากทำมาเวลาไม่ยิ้มหน้าแอบตอบไป ก็แล้วแต่คนชอบ แต่ในความคิดคือ มันแก้ปมด้อยของเบสเลย เบสไม่ค่อยกล้ายิ้ม เพราะรุ้สึกว่า ยิ้มแล้วหน้าบานมาก เหมือน ส้มตำถาด 5555555
ตอนนี้รุ้สึกดีขึ้นและยิ้มได้มั่นใจขึ้นเยอะมากกๆๆๆๆๆ ยังไงก็ดูอยากมีวิจารนญาณ นะคะ มีอะไรติดต่อถามเบสได้เลยน้า ขอบคุณพื้นที่ดีดีให้แชร์ประสบการณ์นะคะ
ปล.1 จริงๆแล้ว การทำศัลยกรรม เป็นไปได้ยากมากที่จะแก้ไขข้อบกพร่องได้เพียงนิดเดียว ตามที่ใจอยากได้ ส่วนตัวแล้ว เบส คิดว่า การที่เบสตัดสินใจทำมันเป็นการแก้ไขมิติของใบหน้า เหมือนกับ รูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ แล้วเราเจียมุมออกอะค่ะการเจียมุมออกทำให้เพิ่มมิติของใบหน้า
ปล.2 ความสวยของแต่ละคนถูกสร้างเป็นภาพในจินตนาการอยู่แล้ว แต่ละคนมีภาพความสวยที่แตกต่างกัน