รู้ทันอันตราย จากสารเร่งผิวขาวยอดนิยมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพราะผิวขาวใส นวลเนียน เปล่งออร่า กําลังกลายเป็นเทรนด์ฮิตยอดนิยมของเหล่าวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน บางคนโชคดีที่ผิวขาวผ่องเนียนใสแบบแม่ให้มาตั้งแต่เกิด ไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยีหรือตัวช่วยใดๆ ให้วุ่นวาย สําหรับบางคนที่ไม่ได้เกิดมาขาว แต่ก็ยังใฝ่ฝันที่จะมีผิวขาวผ่อง เปล่งออร่าเหมือนดารา จึงต้องหันไปพึ่งเทคโนโลยี และตัวช่วยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไวท์เทนนิ่ง เครื่องดื่มบํารุงให้ผิวขาว อาหารเสริม หรือแม้แต่สารเร่งผิวขาวทั้งหลายที่กําลังฮ็อตฮิต ทั้งการฉีด การทา การทาน ซึ่งด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และการฉวยโอกาสเอาเปรียบจากกลุ่มคนที่หวังหากินกับคนอยากสวย ทําให้เกิดข่าวคราวตามหน้าหนังสือพิมพ์ เกี่ยวกับอันตรายที่เกิดขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว

 

รู้ทันอันตราย
ภาพจาก sheknows.com

 

รู้ทันอันตราย จากสารเร่งผิวขาวยอดนิยม

กลูต้าไธโอน
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti Oxidant) ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม ซึ่งเป็นเหมือนตัวที่ช่วย Detox และขับสารพิษต่างๆ ที่อยู่ในร่างกายออกไป กลูตาไธโอนเป็น Tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine) กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ซึ่งจะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่จะเป็นตัวกำหนดสีผิวของเรา ว่าจะขาวหรือดำ ซึ่งโดยพื้นฐานของคนไทย จะมีการสร้างเม็ดสียูเมลานินมากกว่า ในขณะที่ชาวตะวันตก จะสร้างเม็ดสีแบบฟีโอเมลานิน ซึ่งกลูต้าไธโอนมีคุณสมบัติที่สามารถทำให้เม็ดสีอ่อนลงได้ แต่จะอยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หากสารหมดไปจากร่างกาย ผิวก็อาจกลับมาคล้ำได้ จึงต้องใช้ในปริมาณสูง ซึ่งมีความเสี่ยงทำให้ยาสะสมในร่างกายมากขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้

 

รู้ทันอันตราย

 

เพราะกลูต้าไธโอนแบบฉีด ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องไม่มีในประเทศไทย และบริษัทที่ผลิตในต่างประเทศ ก็ไม่ได้นำเข้ามาในไทยด้วย เพราะฉะนั้นยาที่ฉีดทั้งหมดคือยาปลอม และหากคลินิกใด มีการฉีดกลูต้าไธโอน ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ทั้งนี้ การมีกลูต้าไธโอนในร่างกายมากเกินไป ก็เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง เนื่องจากกลูต้าไธโอนจะไปยับยั้งการสร้างเมลานิน ทำให้ผิวไม่มียูเมลานินที่คอยดูดซับและป้องกันรังสี UV จึงทำให้ตาสู้แสงไม่ได้ และค่อยๆ พร่ามัวลงเรื่อยๆ  สำหรับกลูต้าไธโอนที่มาในรูปแบบของการทาน ทางอ.ย. ก็อนุญาตให้มีปริมาณสารกลูต้าไธโอน 250 มิลลิกรัมต่อเม็ด และต้องทานในปริมาณที่มากพอสมควรจึงจะเห็นผล และสารสามารถถูกทำลายได้ในระบบทางเดินอาหารอีกด้วย 

 

รู้ทันอันตราย
ภาพจาก makeupmadness2806

 

ทรานซามิน (Transamin)
หรือที่วัยรุ่นเรียกกันว่า เจเอ เป็นยาที่ทางการแพทย์นำมาใช้ในการทำให้เลือดแข็งตัว ซึ่งผลข้างเคียงจากการใช้ยาตัวนี้ ก็คือมันจะไปยับยั้งเอ็นไซม์ที่ช่วยในการสร้างเม็ดสี จึงทำให้ผิวขาวขึ้นได้ แต่ถือว่าเป็นยาอันตรายที่ต้องได้รับการสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น เนื่องจากจะมีผลต่อตับ และทำให้เกิดลิ่มเลือดในร่างกาย ที่อาจส่งผลให้เส้นเลือดอุดตัน และอาจเกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัวได้ 

อัลฟ่า อาร์บูติน (Alpha Arbutin)
เป็นสารชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนผสมในครีมบำรุงผิว หรือไวท์เทนนิ่งต่างๆ ทำหน้าที่ยับยั้งการผลิตเม็ดสี (Melanin) เป็นสารสกัดที่ได้จากพืชหลายชนิด เช่น Mulberry เป็นต้น ซึ่งออกฤทธิ์ได้ผลดี แต่ไม่มีอาการข้างเคียงมากเหมือนกับไฮโดรคิวโนน จึงไม่อยู่ในกลุ่มสารเคมีควบคุม เป็นที่นิยมอย่างมากในผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องสำอางราคาแพง 

 

รู้ทันอันตราย
ภาพจาก clickoncare.com

 

กรดอัลฟาไลโปอิค (Alpha Lipoic acid)
เป็นกรดไขมัน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสร้างได้เองตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรือภาวะอ่อนแอ อาจทำให้การสร้างลดลง มีคุณสมบัติพิเศษคือ ละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน จึงสามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ทั่วร่างกายได้ดี ทำให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ 
ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพดี ซึ่งในปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่า มีการสกัดกรดอัลฟาไลโปอิค ออกมาในรูปแบบอาหารเสริม ที่ศึกษาไม่มีผลข้างเคียง หากใช้อย่างถูกต้องและพอดี

ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)
เป็นสารฟีนอลชนิดหนึ่ง ที่ในบ้านเรายังไม่ให้มีการผสมลงในเครื่องสำอาง เนื่องจากเป็นสารอันตรายที่อันตรายมาก มันจะเข้าไปทำลายการสร้างเมลานินสีผิว ทำให้เมลานินตาย จึงทำให้ผิวหนังบอบบาง และไม่สามารถทนต่อแสงแดด และรังสี UV ได้ อันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งผิวหนัง

สารปรอท
อีกหนึ่งสารอันตรายที่พบว่าถูกผสมอยู่ในเครื่องสำอางตามท้องตลาด มันจะออกฤทธิ์รบกวนการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ลดการสร้างเมลานิน จึงช่วยให้ผิวขาวขึ้น แต่ถ้าหากใช้ไปนานๆ จะทำให้ผิวหนังอักเสบอย่างรุนแรง และยังมีโอกาสที่จะซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำลายระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ ไตทำงานผิดปกติ ทำลายระบบความจำ และทำให้เป็นโรคนอนไม่หลับอีกด้วย 

……………………………………….

ผิวสวยไม่จําเป็นว่าต้องเป็นผิวขาวเสมอไป เพราะผิวสวย คือผิวที่มีสุขภาพดี ไม่มีสิว ฝ้า กระ ริ้วรอย หรือจุดด่างดํา ดังนั้น คนที่มีผิวคล้ำก็สวยได้เหมือนกัน และที่เรารู้กันดีว่าแสงแดดนั้น เป็นตัวการของผิวหมองคล้ำ เราจึงอยากจะแนะนําว่าควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และหมั่นทาครีมกันแดดอยู่เสมอ ดูแลบํารุงให้ผิวชุ่มชื่น เพียงเท่านี้ ปัญหาริ้วรอย ความหมองคล้ำต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นได้น้อยลง แต่สําหรับคนที่อยากมีผิวขาวจริงๆ เวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามท้องตลาด ก็ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ และตรวจสอบความปลอดภัย ดูเครื่องหมาย อ.ย. เลขจดแจ้งในเครื่องหมาย อ.ย. วันที่ผลิต และวันหมดอายุให้แน่ใจด้วยค่ะ

 

เนื้อหาโดย Dodeden.com

 

เรื่องน่าสนใจ