อย.จับอีก! ครีมมหัศจรรย์อ้างรักษาสารพัดโรค “Firmax 3” บุกยึดของกลางได้คาโรงแรมประชุมขายตรงใจกลางโคราช กับร้านบ้านแซนดี้ พบขายเครื่องสำอางผิดกฎหมายเพียบ ยึดของกลางรวม 1.7 ล้านบาท แจ้ง 6 ข้อหา เผยขบวนการขายตรงมีครู-จนท.สาธารณสุขตกเป็นเหยื่อช่วยโปรโมตสินค้าหลายราย
(10 พ.ย.) นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงข่าวการจับแหล่งขายและเก็บผลิตภัณฑ์ Firmax3 อ้างเป็นครีมมหัศจรรย์ รักษาสารพัดโรค เช่น ไซนัสอักเสบ ไทรอยด์ เบาหวาน ความดัน ริดสีดวง เป็นต้น ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการตรวจจับยึดของกลางมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งแรกตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ Firmax 3 ได้ที่โกดังสินค้าของสายการบินนกแอร์ สนามบินดอนเมือง โดยเป็นการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ส่วนครั้งที่ 2 ตรวจจับโดย อย.คือร้านขายตรงแถวแยกปักธงชัย จ.นครราชสีมา และที่ จ.สงขลา ตามที่ขยายผลการสืบสวนได้ และล่าสุด อย.ได้รับแจ้งจากตำรวจ บก.ปอศ.อีกว่าจะการประชุมขายตรงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอีก อย.จึงร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ดำเนินการตรวจจับในครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 หน่วย
นพ.บุญชัยกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้เข้าไปตรวจสอบการจัดประชุมธุรกิจขายตรงเครื่องสำอาง ที่ Heritage HOTEL and Resort จ.นครราชสีมา พบเครื่องสำอาง O2 Max3 แจกสมาชิกที่ประชุม ตรวจพบเป็นเครื่องสำอาง ที่ไม่จดแจ้ง และไม่ขออนุญาตการนำเข้าตามกฎหมาย ไม่แสดงฉลากภาษาไทย และยังพบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวภายในห้องพักของโรงแรมจำนวน 500 กล่อง ซึ่งเตรียมไว้แจกสมาชิกที่มาประชุม จึงได้ยึดผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ขณะที่อีกส่วนเข้าตรวจสอบสถานที่จำหน่ายเครื่องสำอางชื่อ “ร้านเรียลครีมบ้านแซนดี้” เลขที่ 174 ซ.สืบศิริ 3 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ตรวจพบผลิตภัณฑ์ Firmax 3 ที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ขออนุญาตเป็นจำนวนมาก รวมถึงแผ่นพับแสดงสรรพคุณ Firmax-3 จึงได้ยึดของกลางทั้งหมด และนำผลิตภัณฑ์ส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยของกลางที่ยึดได้ทั้งสองแห่งมีมูลค่ากว่า 1,700,000 บาท
“เบื้องต้นแจ้งข้อหาดำเนินคดี ดังนี้ 1. ลักลอบนำเข้าเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้งต่อ อย. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ขายเครื่องสำอางที่ตรวจพบสารห้ามใช้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. นำเข้าเพื่อขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 4. นำเข้ายาโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท 5. ขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 6. จำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท” เลขาธิการ อย.กล่าว
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ Firmax 3 เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน มีคนไทยเป็นเจ้าของร่วมกับคนมาเลเซีย จำหน่ายในลักษณะธุรกิจขายตรง ซึ่งขณะนี้ตำรวจ บก.ปอศ.และ อย.พอมีข้อมูลแล้วว่าใครเป็นเจ้าของ ซึ่งจะสืบขยายผลต่อไป สำหรับผลิตภัณฑ์เมื่อตรวจสอบยังพบว่ามีสารห้ามใช้ด้วย คือสารไฮโดรควิโนน และกรดวิตามินเอ ทั้งนี้ ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นเครื่องสำอางไม่มีสรรพคุณทางยารักษา เพราะไม่ใช่ยารักษาโรค ถือเป็นการโฆษณาสรรพคุณเกินจริง โดยไฮโดรควิโนนจะทำให้เกิดระคายเคือง เกิดจุดด่างขาวที่หน้า ผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวรรักษาไม่หาย และกรดวิตามินเอทำให้หน้าแดงแสบร้อนรุนแรง เกิดการอักเสบ ผิวหน้าลอกอย่างรุนแรง และเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อและซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพใดๆ ตามท้องตลาด หรือเว็บไซต์ในรูปแบบขายตรง ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีคุณภาพ มีการใส่สารห้ามใช้ที่เป็นอันตราย แสดงฉลากไม่ถูกต้อง อาจได้รับอันตรายจากผลิตภัณฑ์นั้น
แหล่งข่าวใน อย.กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของทั้งสองแหล่งที่จับได้มีความเชื่อมโยงเป็นแม่ลูกกัน โดยผู้เป็นแม่จะขายอยู่ภายในร้านขายตรง ส่วนผู้เป็นลูกจะขายผ่านเว็บไซต์ภายในบ้าน โดยต่อจากนี้จะดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลต่อไป ทั้งนี้ การขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นลักษณะการขายขายตรง มีทั้งครูและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตกเป็นเหยื่อในการช่วยโฆษณาและขายสินค้าดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่หลงเชื่อเพราะเห็นโฆษณาและรีวิวตามเว็บไซต์ ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นหน้าม้าทั้งสิ้น
ขอบคุณที่มา ผู้จัดการออนไลน์
