วันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันมหาสมุทรโลกหรือ World Oceans Day โดยเกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.2535 จากความร่วมมือของกลุ่มประชาคมโลก ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เป็นเวลากว่า 20 ปี ที่คณะทำงานกลุ่มนี้ได้รวมตัวกันเพื่อเผยแพร่ความรู้และรณรงค์ส่งต่อไปยังประชาชนทั่วโลกผ่านเครือข่ายต่างๆ ที่มีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก พร้อมกับจัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรต่างๆ อาทิ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และองค์กรอนุรักษ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้คนทั้งโลกหันมาใส่ใจร่วมกันอนุรักษ์ท้องทะเล
หาดไวท์เฮเวน ประเทศออสเตรเลีย เป็นชายหาดที่ขึ้นชื่อว่ามีทรายขาวสะอาดที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในทะเลที่มีธรรมชาติสมบูรณ์มากที่สุด ปราศจากที่พักบนเกาะ ห้ามนำสุนัขรวมทั้งบุหรี่เข้าไป เป็นเหมือนเกาะที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายอย่างสิ้นเชิง อีกหนึ่งหาดที่สวยไม่แพ้กันก็คือ หาดนังวีในประเทศแทนซาเนีย เป็นหาดที่อยู่ของหมู่บ้านชาวประมง เกาะแซนซิบาร์นี้เงียบสงบ สะอาด และผืนทรายนุ่มเนียนละเอียด พร้อมน้ำทะเลสีฟ้าใสในทันที เพราะมันเป็นหนึ่งในชายหาดที่มีโรงแรมและสิ่งก่อสร้างน้อยที่สุดก็ว่าได้ ชาวบ้านที่นี่รณรงค์ให้มนุษย์รุกรานสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เพื่อรักษาความเงียบสงบที่มีเอาไว้ แม้ปัจจุบันจะมีการสร้างอควาเรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมเพิ่มเติมบ้างแล้วก็ตาม
ปัญหาใหญ่ของทะเลทั่วโลกในขณะนี้ ก็คือเป็นปัญหาเรื่องขยะ ในปัจจุบันพบว่า ทั่วโลกมีขยะถูกทิ้งลงสู่ทะเลทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 8 ล้านตัน และในจำนวนนั้นเป็นพลาสติกมากถึงร้อยละ 89 หรือประมาณ 46,000 ชิ้นต่อตารางไมล์ ซึ่งคิดเป็น 3 เท่าของปริมาณปลาที่จับได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาทางทะเลและทางด้านเคมี ได้วิจัยเกี่ยวกับการปนเปื้อนบริเวณชายฝั่งทะเล พบพลาสติกที่มีขนาดเล็กปนเปื้อนอยู่ทั่วไปทั้งในทะเลและบริเวณชายฝั่ง นอกจากนั้นยังมีขยะชิ้นใหญ่ๆ ประเภท โฟม พลาสติก และเครื่องมือประมงเป็นจำนวนมาก ทำให้สัตว์เล็กๆ อย่างเพรียงทะเลและหนอนทะเล ไปจนกระทั่งสัตว์หายากอย่างวาฬ โลมา พะยูนหรือเต่าทะเล ได้รับบาดเจ็บพิการหรือตาย เนื่องจากโดนขยะพันลำตัวหรือกินขยะต่างๆ เข้าไป แม้ทะเลสวยจะยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วโลก แต่หากมนุษย์เรายังเลือกที่จะทิ้งมากกว่าเก็บขยะ ก็จะมีทางหมดไป