วันที่ 16 มกราคม 2560 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศาลจังหวัดนครพนม นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี ข้าราชการครูชาว จ.สกลนคร ผู้ร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีตกเป็นแพะ กับกระทรวงยุติธรรม เกี่ยวกับคดี ขับรถชนคนตาย โดยเหตุเกิดตั้งแต่ ตั้งแต่ปี 2548 ในท้องที่ของ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม จนกระทั่งมีการพิจารณาตัดสินของศาลฎีกา ให้จำเลยติดคุก เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน ซึ่งศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน และมีการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ถึง 3 ศาล โดยศาลอุทรณ์ ยกฟ้อง และศาลฎีกา มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จนกระทั่ง ภายหลังได้รับการอภัยโทษออกมา รวมจำคุก 1 ปี 6 เดือน ได้ร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรมว่า ตกเป็นแพะไม่ได้ รับผิด ซึ่งทางศาลอุทรณ์ภาค 4 ได้มีคำสั่ง ให้ศาลชั้นต้น คือ ศาลจังหวัดนครพนม ดำเนินการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่
โดยในวันนี้ทางศาลจังหวัดนครพนม ได้นัดมาเตรียมสืบพยาน พิจารณาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนางจอมทรัพย์ ได้เดินทางพร้อมกับ นายพงศา ราตรี ทนายความ นายภูมิสิทธิ์ เอื้อมบัญสุข ทนายความ นายชาญวิทย์ เพียแสน นักฑัณฑะวิทยา ที่ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.ดุษฎี อารยวุฒ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งศาลจังหวัดนครพนม ได้มีการนัดสืบพยานทั้งสองฝ่าย ในระหว่างวันที่ 8 – 10 มกราคม 2560 เพื่อดำเนินตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี ผู้ร้อง ได้เปิดเผยหลัง มีการนัดวันสืบพยานว่า มีความบริสุทธิ์ใจ และตนตกเป็นแพะจริง และมีคนยืนยันที่มารับผิดตัวจริง อยู่ระหว่างการดำเนินการของทนายความ ซึ่งขอความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้าน พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังมีการประชุมร่วม กับ ตำรวจเกี่ยวข้องว่า เบื้องต้นขอยืนยันว่าคดีดังกล่าว เป็นเพียงการกล่าวอ้าง ยืนยันว่าในการดำเนินคดีกับ นางจอมทรัพย์ เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย มีแนวทางการสอบสวนในชั้นพนักงานสอบสวนชัดเจน และเป็นไปตามข้อเท็จจริง นอกจากนี้ภายหลังมีการตรวจสอบ พบว่ามีขบวนการจัดฉากสร้างเรื่องว่าตกเป็นแพะ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ ตามขั้นตอนของกฎหมาย และหากพบว่าทุกคนที่กระทำผิดจะต้องมีการดำเนินคดี เชื่อมั่นในหลักฐานของตำรวจ ส่วนในกระบวนการของศาลไม่ขอก้าวก่าย ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
