ที่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 7 บ้านหนองแสงสร้อย ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี มีเด็กหญิง อายุ 11 ปี เป็นมะเร็งเนื้อเยื่อกระดูก แต่ไม่มีเงินที่จะนำลูกสาวเดินทางไปรักษาตัวได้ หลังจากที่ต้องขายนาถึง 10 ไร่ ต้องนำเงินมารักษาลูกสาวจนหมดแล้ว

03 (2)

เมื่อไปถึงที่บ้านดังกล่าวพบว่าเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง พบผู้ป่วยเป็นเด็กหญิง ชื่อ ด.ญ.ภัททิยา หรือ น้องบรีส ดวงสุทา อายุ 11 ปี ที่บริเวณแก้มด้านซ้ายบวมเป่งขนาดใหญ่ยื่นออกมา โดยมีนางจำปาทอง ดวงสุทา อายุ 44 ปี ผู้เป็นแม่ คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ได้มีเพื่อนวัยเดียวกันกับน้องบรีส ที่เป็นญาติ มาเล่นด้วยอยู่ที่บ้าน

นางจำปาทอง เปิดเผยว่า ตนกับนายทองวัน ดวงสุทา อายุ 47 ปี สามีมีอาชีพรับจ้างตัดอ้อย มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ ด.ญ.ภัททิยา อายุ 11 ปี คนโต และ เด็กชาย อายุ 3 ขวบ คนเล็ก เมื่อปี 2550 ขณะที่น้องบรีส อายุ 3 ขวบเศษ ได้เข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาล ที่โรงเรียนบ้านหนองแสงสร้อย

น้องบรีสได้หกล้มไปชนกับโต๊ะ ทำให้ขาข้างซ้ายบวมบูดเท่าลูกมะนาว และเกือบอาทิตย์ ตนได้นำน้องบรีส ไปพบแพทย์ที่ ร.พ.หนองวัวซอ ทาง ร.พ.ได้ส่งต่อไปที่ ร.พ.ศูนย์อุดรธานี และทางหมอได้วินิจฉัยว่าน้องบรีส เป็นมะเร็งที่กล้ามเนื้อ จึงได้ผ่าตัดก่อนเนื้อร้ายออก

ต่อจากนั้นได้ส่งตัวน้องบรีสไปรักษาโดยทำคีโมถึง 37 ครั้ง และทำการรักษาโดยฉายแสง 23 ครั้ง ที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เป็นเวลา 2 ปี ทำให้น้องบรีส อาการดีขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่ง น้องบรีส อายุ 5 ขวบเศษ ขาข้างซ้ายเริ่มรีบเล็กผิดปกติ จึงได้ไปปรึกษาหมอก็ให้คำแนะนำ ให้ทำกายภาพบำบัด

แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นมา ต่อมาในต้นปีนี้ น้องบรีสมีอาการปวดฟันแก้มซ้ายแล้วบวมเท่าลูกมะนาว ตนเลยพาไปพบแพทย์ ที่ ร.พ.หนองวัวซอ ซึ่งก็บอกว่า ฟันแท้กำลังจะขึ้นมา ก็ให้ยาแก้ปวดและแก้อักเสบมารับประทาน จนผ่านไป 1 สัปดาห์ แก้มด้านซ้ายของน้องบรีส ก็บวมใหญ่กว่าเดิม เลยพาไปพบแพทย์ที่ ร.พ.หนองวัวซอ อีกครั้ง แพทย์ได้มีการตรวจอย่างละเอียดอีกรอบ ก็ไม่กล้าทำการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อที่บวมทางแก้มด้านซ้ายได้ เพราะเป็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่ จึงแนะนำให้ไปรักษาที่ ร.พ.ศูนย์อุดรฯ แล้วต่อมาทาง ร.พ.ศูนย์ฯ ก็ส่งตัวไปทำการรักษา ที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น

03 (3)

นางจำปาทอง กล่าวต่อว่า จากนั้นแพทย์ก็ได้ทำการตัดชิ้นเนื้อในแก้ม ไปทำการวินิจฉัย ผลว่า เป็นมะเร็งเนื้อเยื่อกระดูกแก้มซ้าย จึงได้ทำคีโมเพื่อทำการรักษา มาตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ถึง เดือน กันยายน 57 แต่ก็ยังไม่เป็นเหตุผล อาการไม่ดีขึ้น แพทย์ที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ จึงได้แนะนำให้ไปทำการรักษาในการฉายแสง ที่ร.พ.มหาราชนครราชสีมา

แต่เนื่องจากต้องใช้ค่าใช้จ่ายมาก ทั้งค่ารักษาและค่าอยู่กิน จึงไม่ได้นำลูกสาวเดินทางไปรักษา เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนต้องขายนาไปจนหมด 10 ไร่ ได้เงินมา 3 แสนบาท ใช้ในค่าการเดินทางนำลูกสาวเดินทางไปหาหมอ ทั้งค่ายา และค่าอาหาร จนเงินหมด จึงไม่มีเงินเหลือที่จะเป็นค่ารถ ค่ายาและค่าหมอ จึงต้องอาศัยซื้อยาสมุนไพรมาให้ลูกกินในเวลาที่ปวดที่แก้ม ก็ช่วยบรรเทาได้บ้าง จึงทำให้ตนและสามีต้องเครียดมาก

นางจำปาทอง กล่าวต่อว่า ตอนนี้กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ ซึ่งฐานะก็ยากจน ตนก็ไม่สามารถออกไปรับจ้างตัดอ้อยกับสามีได้ ต้องคอยดูแลน้องบรีสอยู่ตลอดเวลาอยู่ที่บ้าน และน้องบรีสก็ไม่สามารถไปโรงเรียน เรียนหนังสือได้เหมือนคนอื่นด้วย ได้แต่เอาหนังสือมาไว้ที่บ้านแทน

 ก่อนหน้านี้ทางอบต.น้ำพ่น เข้ามาช่วยเหลือเพียง 1 ครั้ง มอบเงินให้จำนวน 1,700 บาท แต่ก็ไม่สามารถจ่ายเงินเบี้ยคนพิการให้ได้ จึงอยากวอนผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือน้อง บรีส ผ่านบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขา หนองวัวซอ ชื่อบัญชี นางจำปาทอง ดวงสุทา เลขที่บัญชี 7052908900

ที่มา ข่าวสด

 

เรื่องน่าสนใจ