นำเสนอข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพ sanook
เว็บไซต์โดดเด่นดอทคอม ( www.dodeden.com ) รายงานว่าเมื่อเวลา 19.45 น. ของวันที่ 6 มี.ค. ศพของ น.ส.อุบลวรรณ กุลนิล อายุ 26 ปี หรือน้องกิ่ง นักศึกษาไทยที่ไปศึกษาต่อที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกชนเสียชีวิต
ขณะเดินข้ามถนนในเขตเอล์มเฮิร์สท์ เมืองควีนส์ นครนิวยอร์ก เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 22 ก.พ. กลับถึงบ้านเกิดที่ จ.สงขลา แล้ว ด้วยเครื่องบินของการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 217
มี นายมานิต กุลนิล ซึ่งเป็นพ่อรวมทั้งญาติๆ เดินทางไปรับศพที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ด้วยความโศกเศร้า ส่วนแม่คือ นางการพรรณ ไม่ได้เดินทางมารับเนื่องจากยังทำใจไม่ได้
รายงานข่าวว่าญาติได้เคลื่อนศพไปตั้งบำเบ็ญกุศลที่ วัดชลธาราวาส ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านเกิดได้มีการเตรียมพร้อมสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยทางครอบครัวได้ซื้อของเล่นเป็นรถเก๋งป้ายแดงไว้รอน้องกิ่ง ตามความฝันของน้องกิ่งที่บอกว่าหากเรียนจบแล้วจะกลับมาทำงานเก็บเงินซื้อรถเก๋งป้ายแดงไว้ใช้กันในครอบครัว
นางการพรรณ กุลนิล แม่ของน้องกิ่ง ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกและเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนที่ศพของน้องกิ่งจะเดินทางมาถึง โดยกล่าวว่า น้องกิ่งเดินทางไปเรียนต่อที่นครนิวยอร์กเมื่อปลายเดือน ส.ค. ปี 2556 เพื่อต้องการเรียนภาษาและหาประสบการณ์ที่เมืองนอก
โดยความฝันหากเรียนจบจะกลับมาทำงานที่บ้านและเก็บเงินซื้อรถเก๋งป้ายแดงให้พ่อแม่ไว้ใช้ แต่ไม่คิดว่าลูกจะกลับมาด้วยร่างที่ไร้ลมหายใจทางครอบครัวรู้สึกทรมานมาก
หลังจากทราบข่าวการจากไปของลูก โดยตนนอนไม่เคยหลับเพื่อรอวันที่ลูกจะถูกส่งกลับมา หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกและครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง
นางการพรรณกล่าวว่า ขอบคุณผู้ที่ช่วยจัดการเรื่องศพของน้องกิ่ง ระหว่างที่ยังอยู่ในนิวยอร์กทั้งสถานกงสุลใหญ่ประเทศไทยนครนิวยอร์กคนไทยในนิวยอร์คทั้งการบำเพ็ญกุศล
และร่วมทำบุญเปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการนำศพกลับมายังบ้านเกิด โดยเฉพาะ น.ส.ฤทัยวรรณ หรือน้องกิ๊บ ซึ่งเป็นมากกว่าเพื่อนและช่วยดูแลทุกอย่าง
รายงานข่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น น้องกิ่งถูกรถบรรทุกเล็กชนเสียชีวิต ขณะเดินอยู่ในเขตเอล์มเฮิร์สท์ ของเมืองควีนส์ นครนิวยอร์ก เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 ตามเวลาท้องถิ่น
โดยขณะเกิดเหตุคนขับรถบรรทุกหลบหนีแต่ถูกตำรวจเมืองนิวยอร์กตามจับกุมได้บริเวณมุมถนน 73 กับ 41 ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับจุดเกิดเหตุมากนัก