เมื่อผมพูดถึง “ศัลยกรรม” ปรากฏว่าคนสนใจกันมากๆ อยากให้ผมเล่าต่อ จัดไปครับ…อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “Surgery Secret ความลับเเห่งการศัลยกรรม” ในวงการบันเทิง เเม้ก่อนหน้าเราจะได้ยินคำว่า “ศัลยกรรม” ที่มักควบคู่มากับ “นักเเสดง” ร้อยละ 90 ทีเดียวที่ “นักเเสดง” ทำศัลยกรรมพึ่งมีดหมอ ที่เรียกกันว่า “สวยด้วยเเพทย์” เหตุผลในการทำศัลยกรรมของนักเเสดง เพื่อให้หล่อสวยเเละดูดี เป็นที่เจริญหูเจริญตาของผู้ชมเมื่อชมนักเเสดงคนนั้นเล่นละครหรือเล่นหนัง
นักเเสดงไทยส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเรื่อง “จมูก” ที่มักไม่โด่งบ้าง บานไปบ้าง เมื่อเข้าวงการบันเทิงมาเเล้ว ก็ไปเเก้ ไปทำให้เข้ากับใบหน้าเดิม บางคนไปทำศัลยกรรมจมูกจนดูหล่อสวยเป็นธรรมชาติ เเต่บางคนไม่ประมาณการพอดี เเทนที่จมูกสวยโด่งเข้ารูปรับกับใบหน้า กลับดู FAKE ผิดธรรมชาติ ขาดๆ เกินๆ ไปเลย นักเเสดงบางคนทำศัลยกรรมเเล้วศัลยกรรมเล่า ทำตาให้เป็นสองชั้น เหลาคาง ทำจมูกซ้ำเเล้วซ้ำอีก จนผนังจมูกจะบาง เเทบจะหายใจไม่ได้เเล้ว ก็ยังไปทำ “เสพติดศัลยกรรม” ทั้งนี้เพื่อคำๆ เดียวเเละผลที่ปรากฏ “สวยเด้งเปล่งประกาย”
วิวัฒนาการใบหน้าที่เปลี่ยนไปของดาราเเต่ละคนก้าวไปพร้อมๆ กับวิวัฒนาการของ “ศัลยกรรม” จากที่เคยต้องพักฟื้นเป็นเวลานานหลังทำศัลยกรรม เวลานี้ทำศัลยกรรมไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ ก็สามารถออกมาใช้ชีวิตตามปกติได้เหมือนคนทั่วๆ ไป จากที่เคยผ่าตัด เดี๋ยวนี้ก็พัฒนามากลายเป็น “ฉีด” ไม่ว่าจะเป็น ฉีดโบท็อกซ์ที่สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยเเละทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์, ฉีดฟิลเลอร์, การร้อยไหม หรือเเม้เเต่เรื่องของ “สเต็มเซลล์” ก็ยังมีคนดั้นด้นไปฉีดเพื่อความอ่อนเยาว์ ความเเข็งเเรงของร่างกาย
การฉีดสเต็มเซลล์ไม่ใช่ราคาถูกๆ เเม้เเรกเริ่มเดิมที เราจะรู้จัก “สเต็มเซลล์” ภายใต้เเนวทางการรักษาโรคที่ปลอดภัย สามารถใช้รักษาได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็น มะเร็ง, ไขข้อเสื่อม หรือเเม้เเต่เเม่ผู้กำลังตั้งครรภ์ก็สามารถเก็บสเต็มเซลล์ไว้ให้ลูกน้อยในอนาคตได้อีกด้วย เเต่ไม่เพียงรักษาโรคร้ายเท่านั้น “สเต็มเซลล์” ยังถูกนำมาใช้เพื่อ “ความงาม” อีกด้วย
“เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร” เป็นคนบันเทิงกลุ่มเเรกๆ ที่เดินทางไปประเทศเยอรมนีเพื่อไปฉีดสเต็มเซลล์ เพราะเวลานั้นเขาเป็นโรค “เบลล์พัลซี” เเต่ผลพลอยได้ที่ได้รับกลับมาเป็นเรื่องของ “ความงาม ความสดใส เเละความอ่อนเยาว์” หลังจากนั้นก็มีคนบันเทิงมากมายต่างเดินทางไปฉีดสเต็มเซลล์เเบบเงียบๆ บ้างก็เปิดเผยในที่สาธารณะ บ้างก็ปิดข่าวเงียบ เป็นที่รู้กันในวงในเท่านั้นเอง
ปัจจุบันนี้มีบริษัทตัวเเทนในอเมริกาที่เก็บ “สเต็มเซลล์” ได้มาเปิดทำการในเมืองไทยเรียบร้อยเเล้ว โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงเยอรมนี จึงอาจจะกล่าวได้ว่า “ความสวยความงาม” เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิง นอกเหนือจาก “ลาภ-ยศ-สรรเสริญ” เเละ “ความสามารถทางการเเสดง” จึงไม่น่าเเปลกใจว่า “ศัลยกรรม” จะกลายเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำหรับการช่วงชิงบัลลังก์ “นางเอกเบอร์หนึ่ง” ที่รับรู้กันในวงกว้าง
ไม่ว่าจะเป็น “นางเอกระดับซูเปอร์สตาร์” หรือ “นางเอกดาวรุ่งหน้าใหม่” ล้วนเเล้วเเต่ต้องใช้ “ศัลยกรรม” เป็นที่พึ่ง ไม่เพียง “นางเอกระดับซูเปอร์สตาร์” เท่านั้น เเม้เเต่ “นางเอกดาวรุ่งหน้าใหม่” ต่างพึ่งพา “ศัลยกรรม” เพื่อใช้ในวงการบันเทิงเเทบทั้งสิ้น
“นางเอกหน้าใหม่” ที่โดนกระเเสข่าวเม้าท์ว่าไปทำศัลยกรรมมา ไม่ว่าจะเป็น “มิน-พีชญา วัฒนามนตรี, ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่, วิว-วรรณรท สนธิไชย, ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล, มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” ฯลฯต่างออกมายืนยันว่า “ไม่ได้ทำศัลยกรรม” ใดๆ ทั้งสิ้น
เเต่เหตุผลหลักๆ ของการไปทำศัลยกรรมจนถี่เเละบ่อยนั้น อาจจะไม่ใช่เพราะ “ความสวยความงาม” ที่จะไปใช้ในการทำงาน เเสดงละคร เเสดงหนังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“การศัลยกรรม” อาจจะเป็นบันไดของ “นางเอกดาวรุ่งหน้าใหม่” ที่จะก้าวไปสู่การช่วงชิงบัลลังก์ “นางเอก” ที่ต้องเเข่งขันกับ “นางเอกซูเปอร์สตาร์รุ่นพี่” ที่คงเเสดงได้เเต่ “บทเพียงไม่กี่บท” เท่านั้น เนื่องจาก “อายุ” เป็นอุปสรรค
เเม้หน้าตาดั้งเดิมอาจจะไม่เอื้อต่อการเป็นนางเอก เเต่ “ศัลยกรรม” สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ว่าจะทำเยอะ ทำน้อย นอนพักรักษาตัวกี่วันไม่มีใครมาบอกหรอก นอกจากหลักฐาน “ใบเสร็จรับเงินจากคลินิกศัลยกรรม” เท่านั้น