เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงอยากได้ทรวดทรงที่สวยงาม และทรวดทรงในอุดมคติคงหนีไม่พ้นทรงนาฬิกาทราย (หรือสมัยนี้เค้าเรียกหุ่นแบบขวดโค้ก) ที่มีหน้าอกที่สวยงาม มีบันท้ายที่เป็นทรงได้รูป ซึ่งการเสริมสะโพก เสริมก้น ให้ได้สัดส่วน ก็เป็นอีกหนึ่งการศัลยกรรมที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองได้
อย่างที่บอกว่าเทรนด์สาวสายฝ. กำลังมาแรง ไม่เพียงเเต่แค่เมคอัพเท่านั้น หากแต่หุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มๆ ความเอวคอด ความสะโพกผายนี้ ก็กำลังฮอตได้ที่เช่นกัน เเต่สาวไทยอย่างเรา เกิดมาก็เป็นคนโครงเล็ก เนื้อนมไข่ก็ไม่ค่อยมีกับเขา บางคนเวิร์คเอาท์ให้ตายยังไง ก้นก็ไม่เด้ง สะโพกก็ไม่เริ่ดซะที แบบนี้ต้องศัลยกรรมเพิ่มความเว้าความโค้งอย่างเดียวเลยค่ะ และในปัจจุบัน ด้วยเทคนิคการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ทำให้การศัลยกรรมในส่วนของสะโพกนั้นทำได้ง่ายขึ้น มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น (หากทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ)
วิธีการนี้ แพทย์จะทำการใส่ซิลิโคนแผ่นเข้าไปบริเวณใต้กล้ามเนื้อ ซึ่งซิลิโคนตัวนี้เป็นซิลิโคนที่มีคุณภาพสูง เป็นซิลิโคนเฉพาะสำหรับเสริมสะโพก สามารถซับแรงกระแทกได้ดี มีความคงทน เพราะบริเวณก้นของเราเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักตลอดเวลา โดยแพทย์จะออกแบบทรงสะโพกร่วมกับคนไข้ เพื่อให้ได้ทรงสะโพกที่สวยงาม และโดนใจมากที่สุด ซึ่งถุงซิลิโคนที่ใช้สำหรับการเสริมสะโพกนั้น ภายในจะบรรจุด้วยซิลิโคนเจลที่มีความหนาแน่นมาก (High Cohesive gel) ไม่มีการผลิตแบบถุงน้ำเกลือ เนื่องจากเป็นการใส่ถุงในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่มีแรงกดมากกว่าถุงเต้านม
วิธีการนี้ จะเป็นการดูดไขมันจากตัวคนไข้เอง เช่น ดูดไขมันจาก ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง แล้วนำมาฉีดเสริมสะโพก ซึ่งอาจจะไม่คงทนถาวร มีโอกาสลายออกไปได้
เตรียมลางาน 10-15 วัน เพื่อเผื่อระยะเวลาการพักฟื้น และการเคลื่อนไหวร่างกาย อีกทั้งการผ่าตัดเสริมสะโพกนั้น จะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยการวางยาสลบ เพราะฉะนั้น ควรอดอาหารก่อนทำการผ่าตัดประมาณ 6-8 ชั่วโมง และควรงดยาที่มีพวก สเตียรอยด์ ยาจำพวกแอสไพริน อาหารเสริมต่างๆ รวมไปถึงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกฮอลล์ด้วยค่ะ (ที่สำคัญ ควรมีผู้ดูแลที่บ้านหลังการผ่าตัดด้วย)
ในช่วง 3-5 วัน ห้ามนอนหงาย ควรนอนคว่ำก่อน เพราะจะได้ไม่เป็นการกดทับถุงซิลิโคน ใช้สำลีชุบน้ำสะอาด หรือใช้น้ำเกลือ ทำความสะอาดเช้า-เย็น หลังจากผ่าตัดไปแล้ว 14 วัน คุณหมอจะนัดตัดไหม ควรใส่ชุดกระชับสัดส่วนประมาณ 3 เดือน
และที่สำคัญ หากในอนาคต จะต้องมีการฉีดยา ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยาผ่านสะโพก เพราะมีซิลิโคนอยู่ ให้เลี่ยงไปฉีดบริเวณอื่นเเทน เช่น ต้นเเขน บริเวณท้องแขนด้านใน หรือใต้กระดูกสะบักค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com