พบยายวัย 82 ปี ถูกทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว หลังลูกสาวบุญธรรม นำที่ไปจำนอง จนถูกยึด ก่อนจะหอบครอบครัวหนี ทิ้งยายไว้คนเดียว กระทั่งตรอมใจ นอนป่วยออดๆแอดๆ ซ้ำร้ายตาขวาบอดสนิท เป็นแผลกดทับ ข้าวก็กินไม่ได้ จนผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เจ้าหนี้ใจดี ยอมให้อยู่ต่อ แต่ก็ต้องอาศัยชาวบ้าน มาช่วยดูแล
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก นายคัคเนศ คงเจริญสุข เลขานุการ มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง จ.ขอนแก่น ว่า พบคุณยายวัย 82 ปี ถูกลูกบุญธรรมเอาที่ดินไปจำนอง จนถูกนายทุนยึดที่ดินและบ้าน ทิ้งให้ยายอยู่คนเดียว ที่บ้านเลขที่ 416 หมู่ 10 บ้านชัยมงคล ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว
พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มุงสังกะสี ประตูหน้าต่าง ถูกตีปิดด้วยสังกะสีและไม้ที่ผุพังแล้ว ภายในบ้านซึ่งเป็นห้องโล่งๆ พบ คุณยายบัวพันธ์ จะรุราช อายุ 82 ปี เจ้าของบ้าน รูปร่างผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก นอนห่มผ้าอยู่บนที่นอนเก่าๆ และขาด โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง ได้นำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ พร้อมกับนำข้าวสาร อาหารแห้ง ของใช้ที่จำเป็นพร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งมอบให้คุณยาย และทำความสะอาดบ้าน ตัดต้นไม้ที่ขึ้นรกรอบบ้านให้ด้วย
จากการตรวจสอบในทะเบียนบ้านพบว่า คุณยายบัวพันธ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2477 เป็นชาวกระนวนโดยกำเนิด ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องราวของคุณยายบัวพันธ์ จาก นางใบ เทพแพง อายุ 80 ปี เพื่อนบ้าน ทราบว่า นางบัวพันธ์ เคยแต่งงาน แต่ไม่มีบุตร จึงไปรับหลานสาว ซึ่งเป็นลูกของน้องสาวมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่ยังแบเบาะ จากนั้นสามีก็เสียชีวิต นางบัวพันธ์จึงเลี้ยงลูกคนเดียว โดยการยึดอาชีพรับจ้างสานเข่งปลาทูหาเงินเลี้ยงลูกจนลูกสาวเติบใหญ่ และมีครอบครัว
จากนั้นลูกสาวบุญธรรม ได้นำโฉนดที่ดินของมารดา ที่มีอยู่เพียงงานกว่าๆ ไปกู้เงินนอกระบบกับนายทุนมาสร้างบ้าน และใช้จ่ายในครอบครัว แต่เป็นการกู้ซ้ำซ้อนนายทุน 3 คน โดยคนล่าสุดจำนวน 60,000 บาท เมื่อประมาณปี 2550 นายทุนก็มายึดที่ดิน ลูกสาวกับสามีจึงหอบลูกหนีไปอยู่ที่อื่น แล้วไม่กลับมาที่บ้านอีก ทิ้งให้ นางบัวพันธ์ อยู่คนเดียว ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าลูกสาวไปอยู่ที่ใด เมื่อลูกสาวเอาที่ดินไปจำนองจนถูกยึด นางบัวพันธ์ก็ตรอมใจและป่วยออดๆ แอดๆ มาเรื่อย เพราะทุกข์ใจไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีที่ไป ไม่มีใครเลี้ยงดู เจ้าหนี้จึงให้ นางบัวพันธ์ อาศัยอยู่ที่บ้านจนกว่าจะเสียชีวิต
ด้าน น.ส.ทิพวรรณ ลังชัย อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่คอยส่งข้าวส่งน้ำให้คุณยาย เล่าว่า เห็นคุณยายมาตั้งแต่จำความได้ และเห็นคุณยายอยู่คนเดียวมาสิบกว่าปี สุขภาพก็ไม่แข็งแรง ป่วยบ่อย นอนรพ.หลายครั้งแล้ว คุณยายเลี้ยงดูตัวเองจากเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 800 บาท ส่วน ลูกสาวบุญธรรม หนีจากหมู่บ้านไปสิบกว่าปีแล้ว ขณะนี้คุณยายไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง ตาข้างขวาบอดสนิทเพราะเป็นต้อหิน ตาซ้ายก็พร่ามัว และนอนอยู่กับที่มาประมาณ 1 เดือนแล้ว จนเป็นแผลกดทับที่สะโพก
เช้า-เที่ยง-เย็นต้องคอยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ ส่วนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ชาวบ้านก็เรี่ยไรเงินกันซื้อมาให้ ข้าวก็กินไม่ได้ ส่วนน้ำต้องให้ทางเข็มฉีดยาทีละน้อยๆ ด้วยความสงสารคุณยายที่ถูกลูกทิ้ง จึงขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง เพราะคิดว่าน่าจะมีทางช่วยเหลือคุณยายมากกว่าชาวบ้าน
นายคัคเนศ คงเจริญสุข เลขานุการ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง เผยว่า น.ส.ทิพวรรณ ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง ผ่านจุดบริการที่ อ.กระนวน จึงได้แจ้งให้ประธานมูลนิธิฯ ทราบ จากนั้นมูลนิธิฯ จึงขอรับบริจาคเงินและสิ่งของจากผู้ใจบุญเพื่อช่วยเหลือคุณยาย ทั้งเงินสดและสิ่งของต่างๆ
นอกจากนี้ยังจะเปิดบัญชีเงินเพื่อให้ผู้มีจิตเมตตาโอนเงินช่วยเหลือคุณยายบัวพันธ์ จะรุราช โดยมีกรรมการ 3 ฝ่าย ในการดูแลบัญชีของคุณยายบัวพันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 และนส.ทิพวรรณ ลังชัย เพื่อนบ้านที่ช่วยเหลือยายมาตลอด และเจ้าหน้าที่มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพองเพื่อควบคุมดูแลบัญชีของคุณยายบัวพันธ์ แต่วันนี้ยังเปิดบัญชีไม่ได้ เนื่องจากเป็นวันหยุด หากธนาคารเปิดทำการแล้วจะแจ้งหมายเลขบัญชีและชื่อธนาคารให้ทราบต่อไป.