เมื่อวันที่ 24 ส.ค. หญิงสาวผู้เสียหายจำนวน 6 ราย เข้าร้องเรียน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หลังถูกคลินิกเสริมความงามหลอกทำจมูกแล้วพัง แก้แล้วแก้อีก น.ส.เอ (นามสมมุติ) กล่าวว่า ไปทำศัลยกรรมเสริมจมูกจากคลินิกความงามแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท โดยเห็นรีวิวตามสื่อออนไลน์และ Live สดทาง Facebook มีความน่าเชื่อถือและมีเทคนิคการเสริมจมูกที่หลากหลายให้เลือก ทำให้ได้ทรงจมูกสวยงามรับกับใบหน้า จึงตัดสินใจเข้าไปปรึกษาและรับการผ่าตัดศัลยกรรม
ตนเคยทำจมูกมาแล้ว 4 ครั้ง ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2557 และทำอีก 3 ครั้ง ซึ่งจมูกหลังทำกับคลินิคเดิม ก็สวยงามรับกับใบหน้าดี แต่มาปี 2563 อยากมีให้หน้าหวานสวยขึ้นกว่าเดิม จึงตัดสินใจไปเสริมจมูกกับคลินิกคู่กรณีที่ย่านสุขุมวิม โดยเลือกเทคนิค “ยืดผนังกั้นจมูก – ปลายไร้ซิลิโคน” ซึ่งแพทย์ จะตัดกระดูกอ่อนหลังใบหูมาเสริม ทำแกนจมูกแทนซิลิโคน ในราคา 125,000 บาท
หลังทำพบว่าจมูกสวยเข้ารูปเป็นทรงตามที่ใจต้องการ แต่ปรากฏว่าผ่านไป 2 เดือน แกนจมูกล้มแล้วย้อยส่วนปลายเป็นก้อนลงมาด้านหน้า จากนั้น 7-8 เดือน จึงเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขฟรีตามข้อตกลง ซึ่งหลังจากผ่าตัดแก้ไข 1 เดือนจมูกก็กลับมาเสียทรงเหมือนการผ่าตัดในครั้งแรกอีก จากนั้น 10 เดือนทางคลินิก จึงนัดให้เข้าไปผ่าตัดเแก้ไขเป็นครั้งที่ 3 ครั้งนี้เสียค่าใช้จ่ายกว่า 30,000 บาทโดยทางคลินิกอ้างว่าเป็นค่าวัสดุ ซึ่งก็ยอมจ่ายเพิ่มเพราะคิดว่า ครั้งนี้ จะจบ ได้จมูกสวยหรือ ไม่แย่กว่าก่อนที่จะมาทำศัลยกรรมกับที่นี่ หลังแก้ไขจมูกรอบที่ 3 ได้ 1 เดือน ก็กลับเข้าอีหรอบเดิม จมูกล้มปลายย้อยรูจมูกไม่เท่ากัน ซ้ำร้ายเนื้อจมูกที่กั้นกลางระหว่างรูจมูกทั้งสองข้าง กลับหายไป ยิ่งแก้ไขยิ่งกลับทำให้จมูกพังเสียหาย
ผู้เสียหายจึงปรึกษาคลินิกศัลยกรรมความงามที่อื่น พบว่าต้องปลูกถ่ายเนื้อเยื่อบริเวณหน้าผากเพื่อมาสร้างเนื้อบริเวณจมูกที่แหว่งหายไป มีค่าใช้จ่าย 7-8 แสนบาท ซึ่งเป็นปัญหาที่คิดหนักทุกวันนี้ เพราะตั้งแต่จมูกเสียทรงก็ขาดรายได้จากอาชีพแม่ค้าออนไลน์
น ส.เอ กล่าวต่อว่า ในระหว่างผ่าแก้ไขจมูก 3 ครั้ง ตนเกิดภาวะซึมเศร้าจนคิดสั้น ทางคลินิกจึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ย่านพระราม 9 2 ครั้ง และรับยากลับมารับประทาน รักษาอาการ แต่ภายหลังคลินิก ลอยแพ ปฏิเสธที่จะพูดคุยเรื่องการผ่าตัดแก้ไขทรงจมูก และไม่สนใจพาไปพบแพทย์รักษาภาวะซึมเศร้า ทำให้ต้องตัดสินใจเข้าปรึกษาทนายตั้ม
ด้าน น.ส.บี (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนก็พบปัญหารูจมูกไม่เท่ากัน หลังเข้าเสริมจมูกจากคลินิกคู่กรณีโดยใช้เทคนิคซี่โครงตัวเองมาทำแกนจมูก แต่ปรากฎว่ารูจมูกที่ได้มาไม่เหมือนกัน ด้านซ้ายเป็นทรงกลม ส่วนรูจมูกด้านขวาเป็นวงรี และทรงจมูกล้ม ไม่ได้รูปทรงตามที่รีวิว ซึ่งแพทย์อ้างว่าสาเหตุที่รูจมูกไม่เหมือนกันเกิดจากคีลอยด์ที่อยู่ด้านใน แต่ตนเชื่อว่าน่าจะเกิดจากกระดูกซี่โครงที่เสริมเข้าไปปูด และไปดันแท่งซิลิโคนให้นูนออกมามากกว่า ทำให้มีปัญหาต่อการหายใจ เนื่องจากผนังกั้นจมูกล้ม
ทุกวันนี้ตนต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เฉพาะทางช่วยเสริมให้หายใจได้สะดวกขึ้น ซึ่งภายหลังมีความพยายามจะผ่าตัดแก้ไข มีการ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ทำให้พบว่าส่วนที่นำไปเสริมเป็นแกนจมูกไม่ใช่กระดูกซี่โครง ตามที่ตกลงแต่เป็นซิลิโคน ส่วนที่เป็นกระดูกซี่โครงเสริมให้เฉพาะส่วนปลายที่จมูกเท่านั้น จึงตัดสินใจขอเงินคืน 50% แต่ถึงขณะนี้ทางคลินิกก็เงียบหายไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เสียหายรายอื่นๆ ก็มีปัญหาจากการเสริมจมูกในลักษณะใกล้เคียงกัน โดยบางรายเสริมแล้ว ทำให้จมูกล้ม เอียง รูจมูกเล็กลงจนไม่สามารถใช้ไม้สวอปแยงหาเชื้อโควิดในโพรงจมูกได้ บางรายทำให้ใบหน้าซึ่งสวยงามอยู่แล้วกลับไม่สวยเท่าเดิม ซึ่งค่าเสริมจมูกจากคลินิกดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่รายละ 100,000 ถึงกือบ 3 แสนบาท บางรายปรึกษาแพทย์ทางเลือกเพื่อศัลยกรรมแก้ไข มีค่าใช้จ่ายเพิ่มถึง 550,000 บาท
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่