สถานการณ์ที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เป็นอะไรที่อึ้งมากๆ ว่าเด็กสมัยนี้เป็นไปได้ขนาดนี้เลยหรือ
เรื่องของเรื่องคือ แอดมินพาเพื่อนไปเสริมจมูกที่คลินิกหมอชื่อดังแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่นั่งรอคิวนั้นก็อ่านนิตยสารไปเรื่อยๆ เพราะคิวค่อนข้างจะเลท (แทบจะเป็นปกติ ต้องทำใจ) ในขณะที่อ่านไป หูก็ได้ยินเสียงผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง รูปร่างค่อนข้างท้วม ผมยาว ใส่เสื้อสีเทาเข้ม แอดมินไม่ทันได้สังเกตหน้าตา ได้ยินเธอสนทนากับใครสักคนในโทรศัพท์ จึงหันไปมอง…ต่อไปนี้ขอเรียกน้องคนนี้ว่า น้องเทา
บทสนทนาของน้องเทาในโทรศัพท์ประมาณว่า ถ้าไม่ได้ทำจมูกก็จะไม่เรียนหนังสือแล้ว พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่ารัก เสียงค่อนข้างดังและมีการตะคอก แอดมินจึงได้หันไปมอง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับน้องเทาต่อ คิดว่าไม่มีอะไร
เรื่องมันเกิดขึ้น เมื่อถึงคิวน้องเทาได้เข้าไปพบหมอในห้องตรวจ ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ตะคอกคุณหมอ พอจับใจความได้ว่า หมอไม่ทำศัลยกรรมจมูกให้ เนื่องจากอายุเพียง 16 ปี (หมอเพิ่งเห็นประวัติ) เพราะตอนมาจองคิวนั้น น้องเทาให้อาม่ามาจองคิวให้ แต่วันนี้ตอนกรอกประวัติ เจ้าหน้าที่เห็นว่าอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น จึงได้บอกว่าต้องนำคุณพ่อหรือคุณแม่มาด้วย แล้วต้องคุยกับหมออีกทีว่าจะทำได้หรือไม่
ย้อนกลับไปในห้องตรวจ ในห้องนั้นมี คุณหมอ แม่ของน้องเทา น้องเทา (ตอนนี้ คุณแม่มาแล้ว และคิดว่าตอนที่คุยโทรศัพท์เสียงดังที่กล่าวไปในตอนแรก ก็น่าจะเป็นการโทรไปตามคุณแม่) น้องเทาโวยวายเนื่องจากหมอไม่ทำให้เพราะอายุเพียง 16 ปี ผิดกฎหมาย ทั้งร้องไห้ และปาของลงพื้น ทุกคนในคลินิกต่างตกอกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนที่อยู่ในคลินิกได้ยินหมดเพราะเสียงดังมาก คุณหมอก็ต้องพูดเสียงดังตาม ว่าถ้าไม่หยุดผลักแม่ และคุยไม่รู้เรื่อง หมอจะเรียกตำรวจ เพราะหมอทำให้ไม่ได้ อายุไม่ถึงผิดกฎหมาย
น้องเทาก็โวยวายเสียงดัง “แล้วทำไมไม่บอกกูว่าไม่ทำให้ตั้งแต่แรก ทำไมทำไม่ได้” ปนกับเสียงร้องไห้ แล้วก็ยังกรี๊ดอีกหลายครั้ง จนคุณหมอต้องบอกว่ากลับไปเลยนะ ถ้าทำตัวแบบนี้ ถ้าไม่กลับไปดีๆหมอจะเรียกตำรวจ แบบนี้คุยไม่รู้เรื่องแล้ว ต้องคุยกับตำรวจอย่างเดียว
เธอยอมก็เดินออกมาจากห้องตรวจ ด้วยอารมณ์ที่โมโห และก่อนออกจากคลินิกไปเธอก็พูดกับแม่อีกว่า “หาหมอใหม่ให้กูเลยนะ ยังไงกูก็จะทำ” ทุกคนในคลินิกอึ้ง คือเธอไม่แคร์เวิร์ล ตะคอกแม่ตรงนั้นเลย
พอเธอเดินไปที่รถจอดอยู่หน้าคลินิก (แอดมินมองลอดกระจกออกไปด้วยความอยากเผือก ไหนๆก็เผือกมาขนาดนี้แล้ว) คุณแม่เปิดประตูให้เธอเข้าไปในรถเบาะด้านหลัง เธอกรี๊ดๆๆ และเอาสองมือทุบตรงเบาะคนขับอีกหลายทีจนรถขย่มด้วยแรงของเธอ
สุดท้ายแม่ของเธอเข้ามาในคลินิกไหว้ขอโทษคุณหมอ พนักงานและกล่าวขอโทษกับลูกค้าคนอื่นๆในคลินิกอย่างน้อบน้อม แอดมินก็แปลกใจมากว่าอะไรคือสาเหตุให้น้องเทาเป็นอย่างนี้ ที่ดูผิดไปจากคุณแม่มากๆ
จากตรงนี้แอดมินไม่ขอสรุปอะไร เพียงแต่นำมาเล่าสู่กันฟัง ให้คนที่อ่านได้ข้อคิด อุทาหรณ์จากเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็ตาม ก็ต้องคิดกันเอาเองว่าคุณจะได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง
