กำลังเป็นประเด็นดังในโลกโซเชียล สำหรับกรณีที่มีแชร์คลิปพริตตี้กลุ่มหนึ่งมากินข้าวในร้านอาหารแห่งหนึ่งและได้มีการ Live เฟซบุ๊กพูดคุยกันบนโต๊ะอย่างสนุกสนาน กลับถูกทางร้านให้เช็กบิลออกจากร้าน เนื่องจากเด็ก ๆ ที่กลุ่มหญิงสาวพามาอ้วกใส่ร้าน สร้างความรำคาญให้กับลูกค้ารายอื่น ทำให้มีการโต้เถียงกันอย่างหนัก ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น
สืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าว ทางรายการแรงชัดจัดเต็ม ออกอากาศวันที่ 24 พฤษภาคม 2559 จึงได้คว้าตัวหนึ่งในหญิงสาวกลุ่มดังกล่าวมาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยคุณรัตติกาล คุ้มชุ่ม อายุ 21 ปี เปิดเผยว่า เรื่องเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนอื่นต้องบอกว่าตนเองและเพื่อนไม่ใช่พริตตี้ตามที่โลกออนไลน์เรียกกัน และในวันนั้นหลังจากกลับจากการทำบุญตนก็ได้มารับประทานอาหารที่ร้านดังกล่าว ผู้ใหญ่ไปกันประมาณ 5 คน ส่วนเด็กมี 4 คน คือ 1 ขวบ, 2 ขวบ และ 7 เดือน ซึ่งเป็นลูก ๆ ของเพื่อนในกลุ่ม
คุณรัตติกาล กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึงร้านกลุ่มของตนก็สั่งอาหารกันตามปกติ สักพักตนจึงสั่งของหวานมาทานกับเด็ก ๆ เพราะคนอื่นๆ ยังกินกันไม่เสร็จ และระหว่างที่เด็ก ๆ กำลังรอของหวานจึงวิ่งเล่นกันตามประสาเด็กแต่อยู่รอบ ๆ โต๊ะ ตนก็ได้ถ่ายเซลฟี่สดตามปกติว่ามากินข้าวที่ไหน สักพักพี่ในกลุ่มของตนก็เดินมาบอกว่า ทางร้านไล่เรากลับบ้านเพราะเราสร้างความวุ่นวายในร้านมามากพอแล้ว ตนก็ถามว่าทำไมมาไล่กัน ทำไมไม่บอกกันดี ๆ ตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องกัน ก็รู้สึกฉุน
ส่วนเรื่องที่เด็กอ้วก ตอนถ่ายคลิปหนูยังไม่รู้ว่ามีเด็กอ้วก มีปัญหากัน หนูก็เลยพูดขึ้นว่า นี่มาซื้อกินนะไม่ได้มาขอกิน ยอมรับว่าในคลิปมีคำพูดหยาบคาย และการที่พูดเสียงดังก็ไม่ตั้งใจเพราะที่จริงแล้วแค่พูดกันในโต๊ะ หากถามว่ารู้ไหมว่าการถ่ายคลิปมีทั้งผลดีและผลเสียในส่วนนี้ก็รู้ค่ะ แต่ตอนนั้นไม่ได้อะไร หลังวันเกิดเหตุพี่ในกลุ่มก็ได้โทรไปขอโทษทางร้านแล้ว คุณรัตติกาล กล่าว
สำหรับคำถามที่ถามว่ามีการถ่ายคลิปเพื่อจงใจดิสเครดิตร้านหรือเปล่านั้น คุณรัตติกาล กล่าวว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจดิสเครดิต เพราะปกติตนเป็นคนชอบถ่ายคลิปอยู่แล้ว ประกอบกับวันนั้นพี่ในกลุ่มเป็นคนบอกให้ถ่ายแต่เมื่อถ่ายไปสักพักก็รู้สึกว่าปัญหามันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มจะมีการทำร้ายร่างกายกัน ตนจึงตะโกนไปว่า แชร์เลยค่ะ ซึ่งตนรู้แล้วว่าฝ่ายตนเป็นคนผิด ก็อยากจะขอโทษ และย้ำว่าตนไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แต่สถานการณ์มันบังคับ และไม่อยากโทษใคร ไม่อยากให้ใครมาเห็นใจเพราะตนผิดจริง ๆ โดยหลังจากมีเรื่องกันมีการไปที่โรงพักกันและเปิดคลิปให้ดู ซึ่งเรื่องนี้เป็นประสบการณ์สอนตัวเองหลายอย่างว่าการใช้อารมณ์ไม่ใช่ผลดีเลย ทำอะไรต้องมีสติ
สุดท้ายนี้ตนอยากบอกว่า กระแสที่ตนได้รับไม่เกี่ยวกับความผิดเรื่องการถ่ายคลิปเลย แต่ข่าวที่ออกไปมีการผิดเพี้ยนกันไปหมดทั้งเรื่องที่ทำให้วงการพริตตี้เสียชื่อเพราะตน และบางคนที่ยังไม่ทันได้ดูคลิปเลยกลับมาต่อว่าต่าง ๆ นานา จึงอยากให้ทุกคนดูคลิปและเสพข่าวให้ดีก่อนค่อยมาว่า ซึ่งตนจะไม่โกรธเลยเพราะยอมรับว่าผิดจริง ๆ