‘สิเรียม’กับชีวิตที่เลือกแล้ว
“สิเรียม”ได้ให้สัมภาษณ์นิตยสารสลิมมิ่ง ฉบับ 111 เดือนสิงหาคม 2556 ว่า ปัจจบันดูแลแบรนด์ความงามที่อยู่ในบริษัท ไบโอคอส กรุ๊ป จำกัด บริษัทแม่ ซึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการธุรกิจความงามครบวงจร มีหุ้นส่วนเป็นเพื่อนกัน 4-5 คน โดยเธอดูแลส่วนของการตลาดและประชาสัมพันธ์ หากมีเวลาว่างจะไปช่วยพัฒนาโปรดักท์
ส่วนงานวงการบันเทิงมีผู้จัดหลายคนติดต่อมาให้เล่นละคร แต่บทยังไม่น่าสนใจและจังหวะเวลาไม่ลงตัว แต่ไม่ได้ทิ้งไปเลย ยังรักและอยากทำงานด้านนี้อยู่
แอนบอกว่า ไม่ได้หายไปไหน แค่เปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากที่อยู่หน้าจอทีวีเป็นดารานักแสดง มาทำงานบริหาร เดินทางบ่อยขึ้นเพราะลูกสาวอยู่อังกฤษ
“แอนมีความคิดที่ไม่เหมือนนักแสดงคนอื่น ไม่มีความสามารถที่จะทำงานเบื้องหลัง หรือเป็นผู้กำกับการแสดง เพราะไม่ใช่ทางที่เราถนัด คนอื่นอาจมองว่าเป็นเรื่องแปลก เป็นนักแสดงอยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นนักธุรกิจ จริงๆ แอนชอบอยู่กับกลิ่นหอมๆ ของสปา ชอบทรีทเมนต์ เราก็ทำในทางของเราไป ถ้าเรามัวแต่ไปนั่งฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่นตลอดเวลา เราก็ไม่มีความสุขหรอกค่ะ”
ถามถึงประสบการณ์ที่แย่ที่สุดๆ เธอตอบว่า มีเยอะทั้งเรื่องข่าวต่างๆ หรือความสัมพันธ์กับคนนั้น คนนี้ หรือเรื่องชีวิตคู่ ที่ถูกคนมองและนินทาจนกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ แต่เธอก็มีความอดทน และมั่นใจในชีวิตที่เหลืออยู่
“เราไม่ได้แคร์คำพูดของคนมากมาย ไม่คิดว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไง หรือต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ แอนเชื่อว่าทุกเรื่องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เราก็เลือกเอาเองว่าจะฟังฝั่งไหน ถ้ามัวแต่ย้ำคิดย้ำทำเรื่องที่แย่ๆ ชีวิตก็ไม่เดินหน้า เมื่อหยุดอยู่กับที่เท่ากับว่าเรากำลังเดินถอยหลัง จริงๆ แอนเป็นคนมองโลกในแง่บวก ไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ทำให้บั่นทอนจิตใจตัวเองสักเท่าไร “
“เวลามีสิ่งไม่ดีเข้ามา ไม่เคยตั้งคำถามว่าทำไม บางครั้งเราก็ปล่อยให้ผ่านไป แอนคิดว่าไม่ว่าเราจะทำอะไร เราก็ทำให้ดีที่สุด รู้สึกโชคดีด้วยซ้ำที่เคยมีช่วงลำบากในชีวิต เพราะทำให้เรามองเห็นถึงมิตรภาพ ใครเป็นมิตรแท้ มิตรเทียม ใครมีความรักความจริงใจ และเข้าใจในตัวเราบ้าง ฉะนั้นการมีเพื่อนเยอะแยะมากมาย เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับแอน ถ้ามีแล้วไร้ประโยชน์ก็ไม่เอา เพื่อที่จะไปสังสรรค์ เจอกันตามงานปาร์ตี้ เพื่อนแบบนั้นสามารถหาได้ทั่วไป จะหาเมื่อไรก็ได้ แต่เพื่อนที่อยู่กับเรายามเราทุกข์ มีปัญหา มีอุปสรรคในชีวิต มาคอยให้กำลังใจกันและกัน มีแค่คนสองคนก็พอแล้วค่ะ”
เรื่องความรักเธอตอบว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรที่โดดเด่น อาจมีคนเข้ามาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็คิดและเลือกมากขึ้น ไม่รู้สึกหวือหวาหรือโฟกัสกับเรื่องแบบนั้น มุมมองความรักเปลี่ยนไปตามวัย เมื่อก่อนความรักอาจเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ของชีวิต แต่พอโตขึ้นอาจกลายเป็นเรื่องหลังๆ ไม่ให้ความสำคัญขนาดนั้นแล้ว
“ทุกวันนี้เราก็อยู่ในสถานภาพที่ทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย มีปัจจัยต่างๆ ทำให้เราดูแลตัวเองได้ ฉะนั้น ถ้าเราจะสบายใจ มีวิธีคิด มุมมอง ทัศนคติตรงกันก็โอเค ส่วนเรื่องสเปก สูงต่ำดำขาว เป็นแค่เปลือกนอก ชีวิตเราผ่านอะไรมาเยอะพอสมควรแล้ว”
“เราเกิดมาไม่เหมือนกัน แต่สามารถมีวิธีคิด และมีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่ดี อย่างแอนมีเป้าหมายในชีวิตว่าจะทำงานจนอายุเท่าไร หลังจากนั้นจะเที่ยวอย่างเดียวหรือทำอะไรต่อ ถ้าจะให้นั่งทำงานไปวันๆ แล้วรอตื่นขึ้นมาจนถึงวัยเกษียณ โดยที่ยังไม่รู้ว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและน่าเศร้ามากๆ การตั้งเป้าหมายในชีวิตจะทำให้เรารู้ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง มีสิ่งไหนที่เราอยากทำและต้องทำ”
ผลงานในวงการของ แอน สิเรียม