อะโวคาโด ผลไม้ที่หลายต่อหลายคนมักเข้าใจผิด และมองข้ามว่ามันเป็นผลไม้รสไม่หวาน ไขมันสูง กินแล้วอ้วน แต่จริง ๆ แล้ว หารู้ไม่ว่าผลไม้ชนิดนี้ เป็นที่นิยมในแถบอเมริกาและยุโรป เพราะมีสารอาหารหลากหลายที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่สำคัญ เป็นผลไม้ลดน้ำหนักชั้นเลิศด้วย!!
อะโวคาโด ไม่สามารถทานผลที่ยังดิบได้ เพราะมีกรดอ่อนรสฝาด และขม หากกินมากๆ จะปวดศีรษะ ควรเลือกทานผลที่สุกแล้วดีกว่า
อะโวคาโดที่สุกแล้ว สามารถกินสดๆได้ หรือกินกับไอศครีม น้ำตาล นมข้นหวาน ทำเป็นสลัด หรือเค้ก โดยชาวเม็กซิโกส่วนใหญ่มักใช้เนื้ออะโวคาโดปรุงอาหารแทนเนย
ประโยชน์ของ “อะโวคาโด“
1. วิตามินเอ และ เบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยบำรุงสายตา
2. วิตามินบี ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา โรคปากนกกระจอก
3. วิตามินซี ช่วยป้องกันโรคหวัด และโรคเลือดออกตามไรฟัน
4. โฟเลตสูงเหมาะกับสตรีตั้งครรภ์ เนื่องจากโฟเลตเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและสร้างเนื้อเยื่อของทารก
5. วิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยได้ดีกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ จึงช่วยคงความอ่อนเยาว์ได้ เป็นตัวช่วยให้ระบบของเซลล์ต่างๆในร่างกายแข็งแรงทำงานได้ดี ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากมลพิษต่างๆ
6. ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
7. มีปริมาณน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตต่ำ เหมาะแก่การลดน้ำหนักและยังเหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
8. โปรตีนสูงกว่าผลไม้สดอื่นๆ และเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ทำให้มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย
9. ช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือดได้ (คลอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี) จึงช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และโรคหัวใจวาย
10. ป้องกันและลดความถี่ของการเกิดโรคเหน็บชา
11. สามารถนำมาใช้นวดศีรษะเพื่อช่วยเร่งการงอกของเส้นผมได้
แต่ถึงแม้ว่าเจ้า “อะโวคาโด” จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์กับมนุษย์มากแค่ไหน แต่ว่ามันกลับเป็นผลไม้มีพิษกับสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หมา, แมว, นก หรือม้า หากให้สัตว์เหล่านี้รับประทานเข้าไป อาจทำให้เสียชีวิตได้