ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมามีการพบเหยื่ออีโบลาที่ตายไปแล้วกลับลุกคืนชีพขึ้นมาจากความตายอีก เป็นรายที่ 3 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ที่ทางการไลบีเรียยอมเปิดเผยข้อมูล ส่วนชื่อของเหยื่อนั้น ยังไม่ได้รับการปล่อยออกมาจากองค์การอนามัยโลก
และข่าวของผู้ป่วยที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากความตาย มีระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ทางการสหรัฐอเมริกา ประกาศเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่าพบผู้ติดเชื้อเหยื่ออีโบลารายแรกชื่อ โธมัส อีริค ดันแคน ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส
จากนั้นไม่นาน เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ทางสาธารณสุขสหรัฐฯ ได้เฝ้าระวังติดตามพลเมืองอีกราว 100 คน ที่คาดว่าเกี่ยวข้องหรือติดต่อกับผู้ติดเชื้อรายแรก และสั่งกักบริเวณญาติผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรก ในประเทศ 4 คน และกำลังเฝ้าติดตามอาการผู้ติดต่อกับผู้ป่วยอีกราว 80 คน
ด้านเหยื่ออีโบลาที่ตายแล้วคืนชีพขึ้นมา จำนวน 2 ราย ในไลบีเรียนั้น เป็นศพผู้ป่วยหญิงทั้ง 2 คนอายุ 40 ปี และ 60 ปี ได้ฟื้นขึ้นมาจากความตายและเดินปะปนร่วมกับคนเป็น ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความแตกตื่นและความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ทางรัฐบาลไลบีเรีย กำลังกล่าวหาว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้สร้างไวรัสอีโบลาเป็นอาวุธชีวภาพ ที่ใช้สำหรับทำสงครามในอนาคต พลเมืองของไลบีเรียได้แสดงการประท้วงหนัก และความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่าสหรัฐอาจมีการทดสอบ “พัฒนาอาวุธชีวภาพ” ที่อยู่รูปแบบของเชื้อไวรัสกับประชาชนของไลบีเรีย
ทั้งนี้ การระบาดของอีโบลาครั้งล่าสุดนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีศูนย์กลางอยู่ประเทศกินี, เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ก่อนจะขยายไปใน ไนจีเรียและเซเนกัล ในเวลาต่อมา จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,000 คน จากผู้ป่วย 6,553 ราย โดยหน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐประเมินว่า ผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มจำนวนกว่า1.4 ล้านคน ก่อนสิ้นเดือน ม.ค.ปีหน้า
ส่วนอีกแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่น นสพ.มติชน อ้างสำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่าเกิดกระแสแตกตื่นอย่างหนักในเมืองนิมบา ของไลบีเรีย หลังชาวบ้านเชื่อว่า ศพผู้ป่วยหญิงที่เสียชีวิตเพราะเชื้ออีโบล่าหญิง 2 ศพ ได้ฟื้นชีพคืนขึ้นมา
โดยมีการบันทึกภาพหญิงทั้งสองที่ฟื้นขึ้นมาได้ โดยหญิงทั้งสองมีอายุ 40 ปี และ 60 ปี โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ศพของหญิงทั้งคู่นี้ ได้ฟื้นชีพขึ้นมา และเดินปะปนในหมู่ผู้คนอื่น ๆ ซึ่งสร้างความแตกตื่นและความวิตกแก่ชาวบ้านอย่างมากโดยศพหญิงวัย 60 ปี ได้เสียชีวิตหลังจากขาดอาหารและยา ก่อนสิ้นใจลงโดยศพหญิงวัย 60 ปี ได้เสียชีวิตหลังจากขาดอาหารและยา ก่อนสิ้นใจลง
นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นไลบีเรียยังรายงานด้วยว่า หมอรายหนึ่งที่อ้างว่าสามารถรักษาโรคอีโบล่าได้ ยังได้เสียชีวิตเพราะการติดเชื้อนี้ด้วย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่มา: tnews , มติชน