วันที่ 28 ส.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรป จากกรณีพบศพผู้อพยพในรถบรรทุกห้องเย็นที่จอดทิ้งไว้บนทางหลวงใกล้ชายแดนออสเตรีย-ฮังการี เมื่อ 27 ส.ค. ซึ่งจากการสอบสวนพบว่ามีร่างผู้เสียชีวิต 71 ราย คาดว่าเป็นชาวซีเรียเนื่องจากพบเอกสารเดินทางของซีเรียอยู่ในรถคันดังกล่าว ในจำนวนนี้เป็นชาย 59 ราย หญิง 8 ราย และเด็กอีก 4 ราย รวมถึงเด็กชายวัยราว 8-10 ขวบ 3 ราย และเด็กหญิงวัยเพียง 1-2 ขวบเท่านั้น โดยตำรวจฮังการีนำกำลังจับกุมผู้ต้องหา 3 คน เชื่อว่าเป็นเจ้าของรถบรรทุก และคนขับแล้ว
โฆษกตำรวจออสเตรียเผยว่า เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงถนนหลวงพบรถบรรทุกห้องเย็นขนาด 7.5 ตัน สำหรับขนย้ายผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก ทะเบียนฮังการี จอดแน่นิ่งอยู่บนทางหลวงนานผิดปกติ หลังเข้าไปสังเกตการณ์จึงพบน้ำหนองไหลหยดเป็นทาง เมื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ซึ่งรุดมาตรวจสอบ ถึงกับต้องผงะในสภาพน่าอนาถ แขนขาศพหลายศพเกี่ยวพันนอนกองอยู่ด้านใน และให้หน่วยนิติเวชต้องใช้เวลาทั้งคืนเพื่อแยกศพไปชันสูตร
ด้านนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวระหว่างร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศบอลข่านที่ออสเตรีย ว่าทุกคนต่างรู้สึกช็อกกับข่าวที่เลวร้ายนี้ เป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่ายในภูมิภาคยุโรปเร่งปราบปรามอาชญากรรมค้ามนุษย์ ขณะที่นางโจฮันนา มิเกิล-ลีตเนอร์ รมว.มหาดไทยออสเตรีย แถลงว่าเป็นวันที่เลวร้ายที่สุด และเป็โศกนาฏกรมที่สะเทือนใจพวกเราทุกคน
วันเดียวกัน บีบีซีรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์เรือ 2 ลำซึ่งบรรทุกผู้ลี้ภัยราว 450 คน ประสบเหตุอับปางนอกชายฝั่งเมืองซูวารา ทางตะวันตกของกรุงตริโปลี ประเทศลิเบีย ตั้งแต่เช้าวันที่ 27 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ระหว่างข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อมายังยุโรป ว่า หน่วยงานยามชายฝั่งลิเบียยังเร่งค้นหาผู้ลี้ภัย พบร่างผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 76 ราย