เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 22 เมษายน 60 ผู้สื่อข่าวรายงานมาจาก ที่วัดสุวรรณาราม ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ว่ามีการจัดงานศพโดยบรรยากาศภายในงานแต่งเป็นธีมคิตตี้สีชมพู จึงเดินทางไปตรวจสอบ
สำหรับงานศพบรรยากาศสีชมพูนี้ตั้งอยู่ที่ศาลา 1 เป็นงานศพของนางสาววรัทยา ปานบุญลือ หรือน้องนุ่น อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 3 ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม มีญาติพี่น้องได้เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก แต่ญาติที่สนิทกันจะใส่เสื้อยืดสีชมพูคิตตี้ ซึ่งเป็นสีชมพูและตุ๊กตาที่ น.ส.วรัทยารักและชอบมากที่สุด
โดยโลงศพนั้นตั้งอยู่ที่กลางศาลาตั้งโลงศพสีขาวมุก ด้านหน้าโลงศพมีตุ๊กตาคิตตี้ขนาดใหญ่จำนวน 2 ตัว และบนฝาโลงมีตุ๊กตาคิตตี้ขนาดกลางจำนวน 5 ตัวตั้งประดับประดาอยู่
นอกจากนี้ยังมีหงส์สีขาวตั้งอยู่ 2 ตัว และ วางรูปถ่ายของนางสาววรัทยา สำหรับตั้งกระถางธูป มีพวงหรีดคิตตี้ พวงหรีดดอกไม้โทนสีขาวชมพู และรูปของผู้ตายในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่จำนวน 3 กรอบวางอยู่ด้านหน้าเช่นกัน นอกจากนี้ทางครอบครัวยังเตรียมดอกไม้จันทน์สีชมพู และของที่ระลึกเป็นกล่องเหล็กสีชมพู สำหรับแจกให้กับแขกที่มาร่วมงานอีกด้วย
ทางด้านนายนพพร ปานบุญลือ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อธุรกิจธนาคารไทยเครดิต สํานักงานใหญ่ กทม.ได้เปิดเผยว่าตนมีบุตร 3 คน นางสาววรัทยาเป็นบุตรคนโตและป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคเอสแอลอี ตั้งแต่ปี 2551 โดยในระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ได้รักษาตัวมาตลอดจนกระทั่งปี 2560 นางสาววรัทยามีอายุได้ถึง 27 ปี
และในวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมาอาการได้กำเริบขึ้น มีอาการไออย่างรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ น.ส.วรัทยา ทนไม่ไหวร่างกายเริ่มอ่อนแรงลง ซึ่งแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้จึงเสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลศิริราช กทม. และนำศพมาตั้งสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 16 -22 เมษายน 60 และในช่วงบ่ายของวันนี้จะมีพิธีประชุมเพลิง
สำหรับสาเหตุที่ต้องทำบรรยากาศทั้งหมด เป็นสีชมพูนั้น นายนพพรได้เผยว่า ตนและครอบครัวอยากทำตามความฝัน ความชอบและทำเผื่อ น.ส.วรัทยา เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งไม่ใช่บรรยากาศในงานศพเท่านั้นที่เป็นสีชมพูและคิตตี้
เนื่องจากที่บ้าน ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนอน ภายในบ้านทุกสิ่งอย่างถูกตกแต่งประดับประดาเป็นสีชมพูคิตตี้ทั้งหมดรวมถึงตู้ ข้าวของ เครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายอีกด้วย และทราบว่าป่วยเป็นโรคเอสแอลอีหรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นโรคที่รักษาไม่หาย ร่างกายจะทรุดโทรมและอ่อนแอ อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน จึงอยากทำให้ลูกสาวที่ตนรักมีความสุขมากที่สุด
แต่หลังจากที่เสียชีวิตแล้ว ตอนนี้รู้สึกสะเทือนใจมาก เพราะเมื่อกลับไปถึงบ้านทีไร จะมีความรู้สึกคิดถึงลูกมากเท่านั้น ตอนนี้ก็ยัง ไม่รู้เลยว่าครอบครัวพ่อแม่พี่น้องจะอยู่กันอย่างไร เพราะว่า สัญลักษณ์สีชมพูคิตตี้เต็มบ้านไปหมด หันไปทางไหนก็คิดถึงลูก หันมองไปทางไหนก็โศกเศร้า เหมือนทุกสิ่งอย่างเป็นตัวแทนของนางสาววรัทยา เต็มไปหมดความทรงจำอีกหลายอย่างมันผุดขึ้นมา
สำหรับ น.ส. วรัทยา เป็นคนที่มีนิสัยร่าเริง อบอุ่น รักในความเป็นสีชมพูและคิตตี้ ถึงแม้กระทั่งใช้เวลาที่มีอยู่เป็นแม่ค้าออนไลน์เปิดร้านผ่านเฟสบุ๊คเพื่อขายสินค้าทุกอย่างที่เป็นคิตตี้ และเพื่อเป็นการหารายได้เพิ่มเติมมาช่วยครอบครัวแบ่งเบาภาระในการรักษาพยาบาลอีกด้วย