ในปัจจุบันนั้น ผู้หญิงไทยยอมสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากเพื่อคงความสวย ส่วนหนึ่งก็เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตนเอง ตลอดจนใช้ความสวยงามดังกล่าวเพื่อประกอบอาชีพ จนกลายเป็นเทรนด์ที่น่ากังวล เฉกเช่นเดียวกับกระแสคลั่งศัลยกรรมตกแต่งที่กระจายอยู่ทั่วโลก
กรณีนี้ดังกล่าว นพ.เทพ เวชวิสิฐ แพทย์ประจำคลินิก ประตูน้ำโพลีคลินิก เผยให้ทราบว่า ในปัจจุบันนั้นผู้หญิงไทยนิยมหันมาทำศัลยกรรมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการศัลยกรรมจมูกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเพราะผู้หญิงไทยเน้นให้ความสำคัญกับใบหน้าเป็นหลัก รองลงมาเป็นการศัลยกรรมตาสองชั้น เพราะผู้หญิงไทยส่วนใหญ่จะมีตาชั้นเดียว และอันดับที่ 3 เป็นการทำศัลยกรรมหน้าอก เนื่องจากผู้หญิงไทยอกเล็กและต้องการสวมเสื้อผ้าแล้วออกมาดูดีและสวยขึ้นในสายตาของผู้อื่น
ส่วนเหตุผลหลักที่ผู้หญิงไทยเลือกที่จะเสียเงินในการคงความสวยนั้น คุณหมอกล่าวว่า ในมุมมองส่วนตัวมองว่าผู้หญิงไทยไม่ค่อยมั่นใจในตนเอง และไม่ค่อยมีความสุขกับสิ่งที่ตนมีอยู่ จึงเลือกที่จะมาทำศัลยกรรม แต่ผู้หญิงอีกส่วนหนึ่งมองว่าการทำศัลยกรรมนั้น นอกจากจะทำให้ตนเองดูดีแล้วยังช่วยให้สามารถประกอบอาชีพได้ดี โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องการความสวยความหล่อเป็นหลัก พร้อมกันนี้คุณหมอกล่าวว่า จากกระแสการทำศัลยกรรมความงามในประเทศเกาหลี ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการทำศัลยกรรมในบ้านเรา เนื่องจากคนไทยทำศัลยกรรมมาก่อนหน้านี้แล้วแต่อาจเป็นเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มคนทำงานกลางคืน เป็นต้น
สำหรับอายุของผู้หญิงไทยที่นิยมทำศัลยกรรมในปัจจุบันนั้น คุณหมอกล่าวว่า จะมีอายุตั้งแต่ 20 ขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ส่วนใหญ่มีงานทำและมีรายได้เป็นของตนเอง ส่วนกลุ่มของอาชีพค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่กลุ่มคนทั่วไปที่ไม่มั่นใจในตนเอง นักศึกษาจบใหม่ที่ต้องการหางาน ไปจนถึงกลุ่มอาชีพดารานักร้องที่ต้องขายหน้าตาเป็นต้น ส่วนราคาของการทำศัลยกรรม คุณหมอกล่าวว่า หากเป็นการทำศัลยกรรมจมูกและการทำศัลยกรรมตาสองชั้น ราคาจะอยู่ที่ระดับหลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ส่วนการทำศัลยกรรมหน้าอกนั้นราคาจะอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท
พร้อมกันนี้ คุณหมอได้เผยให้ทราบถึงตัวเลขรายได้ในแต่ละปี รวมถึงจำนวนของผู้ที่มาทำศัลยกรรมว่า หากเป็นในโรงพยาบาลทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นรายต่อปี ส่วนคลินิกศัลยกรรมทั่วไปนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนคน และคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณหลักหมื่นล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั้นคุณหมอกล่าวว่าถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง ส่วนความคิดเห็นที่มีต่อการเปิดตัวสถานเสริมความงามขึ้นเยอะในปัจจุบันนั้นคุณหมอบอกว่า โดยส่วนตัวแล้วมองว่าน่าจะเป็นเรื่องดี พูดง่าย ๆ ว่าจะช่วยทำให้ผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องของการมีสถานเสริมความงามที่ดีและปลอดภัยได้มาตรฐานเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
ส่วนอาการหรือผลข้างเคียงจากการทำศัลยกรรมในแต่ละชนิดนั้น คุณหมอกล่าวว่าสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป ถ้าเป็นการทำศัลยกรรมเสริมจมูกปัญหาที่สามารถพบบ่อย ๆ คือ จมูกเอียงหรือทะลุ ตลอดจนจมูกสูงหรือต่ำจนเกินไป ส่วนการทำศัลยกรรมตาสองชั้นนั้น คือหลังจากที่ทำศัลยกรรมแล้วตาทั้งสองข้างจะไม่เท่ากัน ส่วนการทำศัลยกรรมหน้าอก ที่พบได้บ่อย ๆ คือการที่หน้าอกเน่า เนื่องจากเวลาที่เราทำการผ่าตัดนั้นอาจมีเชื้อโรคปะปนอยู่ และเชื้อโรคดังกล่าวก็เข้าไปทำปฏิกิริยากับแผล จึงทำให้เกิดอาการเน่า ซึ่งอาการดังกล่าวจะอยู่ในช่วงระยะเวลาหลังการผ่าตัด 5-7 วัน แต่อย่างไรก็ตามแพทย์จะรับทราบอาการเบื้องต้นเหล่านี้แล้ว และจะป้องกันโดยการให้รับประทานยาฆ่าเชื้อนั่นเอง พูดง่าย ๆ ว่าแพทย์สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้ ขณะเดียวกันแพทย์ก็จะทำการวินิจฉัยให้ยุติการทำศัลยกรรม ในรายที่ร่างกายไม่สามารถตอบรับการทำศัลยกรรมได้เช่นกัน
แนวโน้มของการทำศัลยกรรมเสริมความงามในอนาคตนั้น คุณหมอกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานเสริมความงามเหล่านั้นว่ามีบริการที่ดี สะอาดและปลอดภัย ตลอดจนราคาในการให้บริการไม่แพงมากจนเกินไปสำหรับผู้มาใช้บริการหรือไม่ ถ้าหากมีบริการที่ดีเหล่านี้มองว่าก็น่าจะทำให้คนหันมาศัลยกรรมเพิ่มเยอะขึ้น ท้ายนี้คุณหมอได้ฝากถึงผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมว่า อันดับแรกต้องดูความเหมาะสมว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนในการทำ หลังจากนั้นควรศึกษาถึงข้อดีข้อเสียของการทำศัลยกรรมก่อนว่าเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันก็ควรเลือกสถานเสริมความงามที่สะอาดปลอดภัย ตลอดจนเลือกแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดที่ไว้ใจได้ และที่สำคัญควรเลือกสถานเสริมความงามที่ดูแลหลังการผ่าตัดด้วยจึงจะดีที่สุด
ขอบคุณที่มาจาก : ไทยโพสต์